วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สี่สิบห้าหมอดูฟันธง...ได้แต่งแน่ (มาตั้งแต่ยี่สิบห้า)

เป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ได้ง่ายๆระหว่างสาวโสดกับหมอดู สองปีก่อนดิฉันจำได้ว่าตัวเองไปดูดวงมาถึงสิบเอ็ดเจ้า นี่นับเอาเฉพาะพวกที่ดูวันเดือนปีเกิดนะคะ ประเภทยิปซี ลายมือ กราฟชีวิตไม่ได้นับรวมเข้ามา เป็นไงละ บ้าไหม พอเวลาผ่านมา ยังนึกด่าตัวเองว่าอะไรจะทำได้ปานนั้น แต่ที่ว่าดูมาสิบเอ็ดเจ้าก็ไม่ใช่สถิติที่สูงสุดอะไร และที่ดูก็ไม่ได้ว่าด้วยเรื่องเนื้อคู่ล้วนๆนะคะ จริงๆเรื่องคู่ตอนนั้นเป็นคำถามสุดท้ายด้วยซ้ำไป แหะๆ ไม่ได้ไม่สนใจอะไรหรอก แต่เหมือนเวลาทานก๋วยเตี๋ยวอ่ะของชอบต้องเก็บไว้ทานทีหลัง เช่นต้องทานเส้นทานผักก่อนลูกชิ้นเก็บไว้ทานตอนสุดท้าย ขอสารภาพว่าตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบเจ็ดไม่เคยดูดวงมาก่อนเลย จะมีก็ประเภทคนมีความรู้เค้าทักนิดๆหน่อยๆ เพราะความที่เป็นเด็กชีวิตก็เรื่อยๆไม่เชื่อว่าการได้รู้อะไรก่อนล่วงหน้ามันจะช่วยอะไรได้ เพราะท้าฟ้าลิขิตมาแล้วซะอย่าง สี่สิบห้าหมอดูก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ แต่จุดเริ่มต้นของการดูหมอของดิฉันอยู่ที่วันหนึ่งมีพี่ที่ทำงานมาทักว่า เราเกิดวันเดียวกันทำไมชื่อน้องใช้ตัวอักษรที่มีแต่กาลกิณีทั้งนั้น อารามคุณยายตั้งชื่อนี้ให้เพื่อให้พ้องกับชื่อพ่อและชื่อแม่ และที่ผ่านมาชีวิตก็ดีมาตลอด ดิฉันจึงยังไม่เชื่ออะไรมาก แต่หลังจากนั้นสิ เกิดเหตุการณ์แปลกๆสิบห้าล้านอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้น เช่น อยู่ดีเงินหาย โดนนายเรียกไปด่า เจรจาความไม่สำเร็จ แฟนก็หมกเม็ดเรื่องแฟนเก่า ช่วงนั้นจิตตกไม่เลยค่าคุณ แต่ก็ยังไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร และแล้ววันหนึ่งที่ลูกพี่ลูกน้องสาวสวยเกิดช้ำรัก โทรมาปรึกษาและขอให้เราเป็นที่พักใจ ด้วยความรักพี่รักน้อง เวลาว่างทั้งหมดจึงขอมอบให้หล่อน และเธอผู้นี้นี่เองที่เป็นผู้ชักนำดิฉันเข้าสู่วงการดูหมอ ลั้นลา เมื่อจิตใจของคุณพี่บาดเจ็บเพื่อนๆของหล่อนก็แนะนำ ให้ไปดูดวงสิเธอ เดี๊ยนเองไม่ได้สนับสนุนแต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม เพราะคิดว่าอะไรที่พี่เค้าทำแล้วสบายใจก็ทำไป สุดท้ายคุณเธอก็ลากเดี๊ยนไปนั่งดูไพ่ยิปซีด้วยจนได้ ด้วยใจไม่เคยคิดอยากจะดู แต่ทนแรงยั่วยุจากรอบข้างและความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหว พอพี่ดูเสร็จ ดิฉันจึงเข้าคิวดูต่อ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คำพูดแรกที่หมอดูทัก คือ ชื่อของน้องเป็นกาลกิณี เอาอีกแล้ว เป็นกาลกิณีแล้วจะเป็นอย่างไร พี่หมอดูก็บรรยายมาซะน่ากลัว ดังเช่น จะทำอะไรก็ยากลำบาก ความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆเหมือนคนอื่น ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น มีเรื่องชู้สาวคาวโลกีย์ ถ้าแต่งงานก็จะวินาศเพราะดาวมฤตยูเล็งที่การแต่งงาน แม่เจ้า ดิฉันเชื่อว่า ใครได้ฟังดังนี้ คงนั่งเฉยๆอยู่ไม่ได้ ไม่ได้จะให้ลุกขึ้นมาตบหมอดูนะคะ หมายถึง ทนอยู่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นไม่ได้

เหตุที่ตามมาก็คือ การเช็คดวงกับหมอดูท่านอื่นๆเพื่อความแน่ใจ อีกสี่หมอดูก็บอกตรงกัน ดิฉันไม่รอช้ารีบนำเรื่องเข้าปรึกษาคุณแม่ ฝ่ายมารดาดิฉันนี่ก็จิตอ่อน ใครว่ากระไร คุณเธอก็ว่าตามได้หมด แม่บอกว่า ‘เปลี่ยนสิลูก ถ้าเปลี่ยนแล้วสบายใจ แม่ไม่ว่าอะไร’ ส่วนแฟนหนุ่มที่คบกันอยู่ตอนนั้น ก็บอกว่า ‘ผมไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ก็เข้าใจว่าถ้ามีคนมาทักแล้ว เราจะขาดความเชื่อมั่น และจากนี้ไปพอมีอะไรไม่ดี คุณก็จะโทษชื่อ โทษดวง เพราะฉะนั้นผมว่าเปลี่ยนก็ดี’ รายนี้สนับสนุนให้เปลี่ยนตามความเชื่อทางจิตวิทยา ผลสรุปคือ ดิฉันต้องดั้นด้นและเสียสตางค์ไปหาอาจารย์ที่สามารถตั้งชื่อได้เจ๋งๆอีกสามสี่ราย กว่าจะได้ชื่อปัจจุบันมา ซึ่งต้องบอกว่า ชอบมาก และชีวิตก็ดีขึ้นจริงๆ ไม่ทราบแน่ว่าเป็นเพราะดวง เพราะพลังดวงดาวจากชื่อใหม่ หรือเพราะจิตวิทยา

แน่นอนที่สุด การพบปะหมอดู หรือพระอาจารย์ทั้งหลายเพื่อตั้งชื่อใหม่นั้น ดิฉันก็ขอให้พวกท่านดู
ดวงร่วมไปด้วย ใครจะบ้าขอแต่ชื่ออย่างเดียวไม่ดูดวงกันเล่า หมอดูท่านที่สองหลังจากแม่ยิปซีคนนั้น บอกว่า ชีวิตคู่ของดิฉันไม่แจ่มนัก ดวงเป็นดวงประ เวลามีรักมักต้องประกับคนอื่น ประเภทดวงรักสามเส้า ให้เลือกเอาเองว่า จะเป็นเส้าเก่า หรือ เส้าใหม่ของเขา แต่ให้ทำใจไว้ซะว่า ถ้ามีคู่ แฟนเราต้องมีกิ๊ก ข้างแฟนหนุ่มของดิฉันพอได้ฟังก็บอกว่า เป็นการเดาเสียมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็มีกิ๊ก แล้วถ้าหมอดูบอกว่าแฟนคุณจะรักคุณจริงจัง รักเดียวใจเดียว เกณฑ์ถูกจะน้อยกว่าทายว่าแฟนจะมีกิ๊ก ซึ่งถ้าพลาดจะทำให้ความน่าเชื่อถือของหมอตกต่ำลงไป

หมอดูคนต่อๆมาก็ทายอะไรคล้ายๆกัน ดิฉันเคยเอาดวงแฟนไปให้เขาดู ปรากฏว่า ดวงของเราทั้งคู่ตกลงที่ช่องหัวใจ แปลว่า เรารักเค้า เค้ารักเรา แต่ดวงหัวใจของทั้งคู่อยู่ในนรกภูมิ ฟังแล้วร้อนรุ่ม กินไม่ได้ นอนไม่หลับไปหลายคืน ที่เด็ดที่สุด คือ หมอดูคนที่ทำนายแม่นยำเรื่องอุบัติเหตุได้บอกดิฉันว่า เนื้อคู่เป็นคนในเครื่องแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำราจ หมอ วิศวกร ข้าราชการ หรือ คนที่มีอาชีพที่มีเกียรติ เฮ้ย หมอ แบบนี้มันก็ครอบคลุมเกินไปสิ กลุ่มเป้าหมายกว้างเหลือเกิน ไม่มีทางที่หมอจะผิดได้ บางหมอดูพูดเองมั่วเอง ไปดูสองครั้งเนื้อคู่เปลี่ยน ครั้งแรกบอกผิวคล้ำ ครั้งที่สองบอกผิวขาว เอ ตูจะเชื่อครั้งไหนดีเนี่ย บางท่านบอกเนื้อคู่จะต้องแก่กว่าคุณ บางหมอดูบอก คู่แท้ต้องด้อยกว่า เช่นอายุน้อยกว่า ฐานะด้อยกว่า หรือ การศึกษาต่ำกว่า บางหมอดูเข้าไปลึกซึ้งกว่านั้น บอกว่า เนื้อคู่ของคุณจะมาในรูปแบบให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยาก ก็แหงแหละ ถ้าเค้าไม่ช่วยชั้น ไม่ดูแลชั้น แล้วชั้นจะรับรักเค้าไหม ถ้าหมอดูบอก เนื้อคู่คุณ คือคนที่จะทำชั่วกับคุณสุดๆแต่คุณก็จะรักเค้า อย่างนี้สิ ปัญหาเกิดแน่ๆ

แต่สรุปว่าทุกหมอดูฟันธงว่าดิฉันได้แต่งงานแน่ๆ ‘ลูกเอ๊ยไม่ต้องกลัว อย่างหนูน่ะ ไม่มีทางอยู่โสดคนเดียวหรอก ต้องมีคนมาชวนกินข้าวกินน้ำเรื่อยๆแหละ’ ก็จริงค่ะ มีแต่คนมาชวนกินข้าวกินน้ำ ไม่มีใครชวนร่วมจดทะเบียนสมรสด้วยเลย ชีช้ำพอสมควรเหมือนกันนะ บางหมอดูบอกเดี๊ยนมีดวงแต่งงานสองครั้ง ครั้งแรกตอนยี่สิบห้า อีกครั้งตอนสามสิบ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากมีสองผัว ครั้งแรกที่มีคนมาขอแต่งให้ประวิงเวลาไปก่อน ถ้าเขาเป็นคู่แท้เขาจะรอเราได้ คู่แล้วไม่แคล้วกัน แต่ถ้าเขารอไม่ได้แสดงว่าไม่ใช่คู่แท้ ก็ไม่ต้องไปเสียดายเขา คู่แท้ของเราจะตามมาเจอเราเองเมื่อถึงเวลา ฟังแล้วเหมือนใครบางคนจะมารอเราที่ทางช้างเผือกยังไงยังงั้น ถามว่าเชื่อไหม ก็ไม่รู้สิคะ พอนึกย้อนไปตอนย่างยี่สิบห้า เดี๊ยนคบหากับใครอยู่เอ่ย อ้อ จำได้แล้ว ไอ้ชั่วคนนั้นเอง ชายคนนั้นเป็นคนหน้าตาดี แต่ไม่มีฐานะ การศึกษาก็บ้านๆ เป็นช่วงชีวิตที่อยากลืมไปเสีย ไอ้หมอนั่นมันอยากไปหางานทำที่อเมริกา นัยว่าจะไปขุดทอง แต่ภาษาอังกฤษใช้ไม่ได้ชนิดเรียกหมาฝรั่งยังไม่หันอ่ะคุณ มันคบกับเดี๊ยนเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ จำได้ว่ามันวางแผนการแต่งงานไว้ด้วยกะว่าแต่งกันแล้วจะไปเมืองนอกด้วยกัน ไปสร้างเนื้อสร้างตัว แต่โชคดีที่พระเจ้าเข้าข้างเดี๊ยนคราวนี้ ได้เผยให้เห็นธาตุแท้อันดำมืดของมันก่อน จึงถอนตัวออกมาทันท่วงที แหมดีนะ ถ้าหลวมตัวแต่งงานไป คงชีช้ำกะหล่ำปลีและได้หย่ากันแทบไม่ทันก่อนสามสิบ ซึ่งก็อาจเป็นผลให้คำทำนายของหมอดูท่านก่อนเป็นความจริงได้ว่าจะต้องวิวาห์สองครั้ง ดีแล้วหล่ะที่ไม่ลงเอย ไม่งั้นเสียของแย่เลย

ข้างฝ่ายลูกพี่ลูกน้องคนที่เปิดโลกหมอดูให้กับเดี๊ยนนั้น หมอดูทุกท่านก็ลงความเห็นว่า ได้แต่งแน่ๆ และแฟนจะดีและรวย ปรากฏว่าตอนนี้เธอสามสิบเจ็ดแล้ว ไม่ว่าจะคนดีหรือคนรวย ยังไม่เคยเห็นเงาหัว ที่ย่างกรายเข้ามาก็มีแต่ชั่วๆ หมอดูท่านหนึ่งทานแม่นบอกพี่สาวดิฉันว่า คนที่คบอยู่นี่ไม่ดี แต่คุณมีกรรมกับเขาอยู่ห้าครั้ง ต้องใช้กรรมให้ครบก่อน จึงจะหลุดกันไปได้ ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่คุณพี่สาวดิฉันนี่ก็ต้องใช้เวลาร่วมห้าปีกว่าจะตัดใจจากมันไปได้สนิท ทั้งที่ก่อนหน้าถูกทารุณจิตใจมานับครั้งไม่ถ้วน หล่อนก็ยังดำรงตนเป็นโจโจ้ซัง ชาตินี้ขอมีรักเดียวอยู่นั่นแล

จะไม่เล่าเรื่องเพื่อนฝูงก็กระไรอยู่นะ เพราะแต่ละนางนั้นเชี่ยวชาญชำนาญยุทธด้านการดูหมอมากๆ ที่ไหนว่าดี ว่าแม่น คุณเธอต้องดั้นด้นไป เมื่อถึงเวลาสาวๆมารวมตัว ก็จะต้องมีเม้าส์เรื่องหมอดูกันบ้างไม่มากก็น้อย คุณเพื่อนๆทุกนางนี่ มีดวงได้แต่งงานแน่ทั้งนั้น ไม่มีใครมีดวงโสดเลย แต่ข้อเท็จจริงก็คือ แต่ละนางตอนนี้ โสดสนิทบ้าง ไม่สนิทบ้าง เป็นการรวมตัวกันของสาวงามที่ยังค้างสต็อกมาจาก warehouse ต่างๆ เป็นสินค้าคุณภาพดี ไม่มีตำหนิ แต่ยังไม่ยอมขายออกไป เราจะไม่ใช้คำว่า ขายไม่ออก เพราะหลายทีที่เราปฏิเสธโอกาสด้วยตนเองเพราเห็นว่าผู้ชายพวกนั้นไม่ดีพอ สวยเลือกได้ค่ะ แต่ที่แน่ๆคือ แต่ละองค์นั้นเป็นสาวโสดคนสุดท้ายของกลุ่มเพื่อนมหาลัย พอได้มารวมตัวกัน จึงเกิดความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด และเกาะกันไว้แน่น จึงอยากบอกย้ำอีกครั้งว่า แยกกลุ่มกันบ้างก็ได้เพื่อน เพื่ออนาคต เราจะไม่ริษยากันและกัน นี่คือ คำมั่นสัญญา

เพื่อนรุ่นพี่ผู้เป็นสาวมั่นก็ผ่านการดูหมอมาอย่างโชกโชน ลักษณะเนื้อคู่ของหล่อนสวิงไปมา เดี๋ยวฝรั่ง เดี๋ยวคนไทย ไม่รู้เท็จจริงคืออะไร เพื่อนสาวขาวหมวยนิสัยขรึม หมอดูบอก เนื้อคู่จะพบที่ทำงาน และจากการแนะนำของเพื่อน เพื่อนสาวลูกครึ่งนอกจากถูกเขยิบอายุของเนื้อคู่ลงมาเรื่อยๆยังถูกขยายเวลาการพบเจอออกไปอีกด้วย จนปัจจุบัน หมอขอฟันธงว่า ไม่เกินสามปีเจอแน่ เจอแล้วไม่ต้องดูใจนาน ไม่เกินหกเดือนแต่งได้ทันที ก็แหงสิคะ เวลาก็งวดเข้ามาทุกที เดี๋ยวจะมีลูกไม่ทันใช้ แต่ละนางแม้จะไม่เชื่อหมอดูเต็มร้อย ด้วยความที่คำทำนายไม่ได้ตรงกันเอาเสียเลย แต่ถ้าคุณหมอดูบอกให้แก้ดวงด้วยอะไร เราจะแทคทีมทำมันในทันที ไม่ว่าจะเป็นปล่อยปลา ไหว้พระราหู ติดทองที่หน้าบ้าน ทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้า ทำสังฆทาน ซื้อโลงศพให้เจ้ากรรมนายเวร เปลี่ยนชื่อ โอย ว่ามาเถอะพวกเดี๊ยนทำกันมาหมดแล้ว แต่มันก็ยังไม่สัมฤทธิ์ผล พวกเราไม่ได้งมงาย แต่ก็ทำเพื่อความสบายใจและความสมัครใจ และบางทีเราก็สนุกสนานกันไปด้วย

อย่างทีเคยบอกไป ถ้าคุณรู้จักพวกเรา คุณจะไม่เชื่อว่าทำไมเราถึงยังโสดกันได้อยู่ เพราะเราก็เหมือนพวกคุณนี่แหละ เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่อยากมีความรัก อยากมีคนรักจริง และอยากมีอนาคต และสร้างครอบครัวที่ดีและแข็งแรง แต่พระเจ้ายังไม่เข้าข้าง พวกเราเลยได้แต่นั่งท่องสุภาษิต ช้าๆได้พร้าเล่มงามกันไปก่อน แม้ที่ผ่านมาสุภาษิตแนวป่าๆที่เห็นจะเป็นจริงจะมีก็แต่ พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่นเสมอ ประเภทเจอคนที่ใช่ ในเวลาที่ไม่ควร ผู้ชายดีๆ มีเมียกันไปหมดแล้ว ตอนนี้เป้าหมายของเราคงเหลืออยู่สองทาง คือ เลือกคนที่อายุน้อยกว่าหน่อย หรือไม่ก็รอคนที่แต่งงานแล้วมันเลิกกัน หรือ เมียตาย เฮ้อ งานนี้ท่าจะยาก และออกแนวบาปๆด้วย คงไม่ดีต่อสุขภาพกายและจิต

ขอเล่าเรื่องความแม่นของหมอดูบ้าง เดี๋ยวจะหาว่ามองโลกแต่ในแง่ร้ายๆ เดี๊ยนมีเพื่อนสาวอยู่อีกนางที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาแต่ครั้งเรียนปริญญาตรี เพื่อนคนนี้มีแฟนอายุน้อยกว่าที่คบกันมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่งจนเรียนจบแล้วก็ไม่มีแววเลิกรา รักใครกันดี แม้มารดาฝ่ายหญิงจะพยายามกีดกัน แต่เขาและเธอก็ฟันฝ่ามาได้เหมือนในภาพยนตร์เกาหลี แต่หลังจากเรียนจบมาได้สักสามปี เพื่อนเดี๊ยนคนนี้ก็ได้ฤกษ์ไปต่อโทต่างประเทศ หล่อนไปได้แค่หนึ่งเทอม ผลปรากฏว่ามีคนใหม่เข้ามาจีบ ความรักที่เคยเหนียวแน่นเกิดสั่นคลอน คนหนึ่งคบหากันมานานกว่าหกปี อีกคนเพิ่งรู้จักได้หกเดือน เพื่อนคนนี้ตัดสินใจไม่ได้ จึงหันหน้าเข้าหมอดูตามระเบียบ ซึ่งการนี้เดี๊ยนเองเป็นคนจัดแจงหาหมอดูที่เค้าว่าแม่นนักแม่นหนา คุณลุงหมอบอกว่าเพื่อนมีดวงได้แต่งงานในอีกหกเดือนข้างหน้า ซึ่งฟังดูเลื่อนลอยนัก เพราะมันเร็วเกินไป เรียนโทก็ยังไม่ทันจบ หมอบอกว่าเพื่อนจะตัดสินใจได้ภายในสิ้นปีนั้นและเมื่อปลงใจแล้วจะแต่งงานเลยทันที แถมบอกให้เพื่อนไปแก้ดวงและเปลี่ยนชื่อให้มีศรีมีเสน่ห์มากขึ้น เพื่อนคนนี้เชื่อและไปทำตามทุกประการ หลังจากคุณเธอเดินทางกลับไปเรียนต่อเทอมที่สองและสาม จนเดี๊ยนลืมไปเสียสนิท วันหนึ่งก็ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากหล่อนว่า เรียนจบแล้วนะ จะกลับบ้านเดือนหน้าและจะมาแต่งงานด้วย ได้ฤกษ์และจองโรงแรมไว้แล้ว เจ้าบ่าวเป็นหนุ่มหน้ามนคนที่เรียนด้วยกันที่โน่น ถึงจะแลดูกะทันหันแต่ก็ไม่ได้เป็นเพราะพิษไข้แตงโม มันเป็นไปตามดวงล้วนๆ เพื่อนคนนี้ตอนนี้ย้ายถิ่นฐานไปพำนักกับสามีที่ต่างจังหวัดมีลูกทันใช้แล้วหนึ่งหน่อ น่าอิจฉาเป็นที่สุด ชีวิตครอบครัวราบรื่น สามีร่ำรวย แม่ยายและอาม่ารักและเอ็นดูดุจลูกในไส้

เรื่องแต่งงานและเนื้อคู่เป็นเรื่องของกรรมเวร ใครทำกรรมดีก็ได้พบเจอเนื้อคู่ที่ดีในเร็ววัน ใครมีกรรมเก่าติดค้างใครไว้ ก็ต้องรอนแรมไร้คู่ไปสักระยะ แต่ระยะของเดี๊ยนนั้นจะยาวไปถึงไหนกันนะ เคยได้รับforward เมล์ว่า คนที่ไม่มีคู่ อาจเพราะชาติก่อนเคยร่วมสาบานรักกับใครคนหนึ่งไว้ ชาตินี้ เลยต้อง รอใครคนนั้นไปเรื่อยๆ ใครหน้าไหนที่เวียนมาบรรจบก็ไม่สามารถลงเอยกันได้ ด้วยผลแห่งกรรมเก่าที่ผูกพันกับใครคนหนึ่งไว้แล้ว หากอยากหลุดพ้นให้ทำบุญกรวดน้ำและเอ่ยวาจาสัตย์ ขออโหสิหรือยุติกรรมที่มีไว้ร่วมกัน จริงเท็จประการใดไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ทำแล้วสบายใจ ก็คงไม่เสียหายที่จะทำนะ ว่าไหมคะ
อยากรู้จังว่าเหล่าชายแท้ที่อายุเกินสามสิบแล้วยังไม่ได้แต่งงานเหมือนเรา เขาจะมีความรู้สึกเช่นไร จะสุขจะทุกข์ จะรู้ร้อนหนาวอย่างเราหรือไม่ เดี๊ยนสังเกตแล้วพอจำแนกความรู้สึกของชายโสดได้ว่า พวกนักเที่ยวล่าเด็กจะยังไม่รู้สึกอะไร นอกจากอิสระไร้ขีดจำกัด สบายสุดๆ เป็นพี่ที่น่าอิจฉาของบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูง พวกหนอนหนังสือบางคนอาจเริ่มกังวลบ้าง แต่คนไหนที่ทางบ้านเริ่งรัดจะเริ่มกังวลเป็นพิเศษ และหันมาใช้บริการแม่สื่อแม่ชักทั้งระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น หนุ่มโสดกลุ่มนี้ หากเพื่อนสาวไสดได้เจอนับว่าโชคดี เพราะเขาจะไม่ดูอะไรมากและพร้อมแต่งงานกับคุณภายในสามวันเจ็ดวัน พวกหนุ่มเลือกมาก ไม่ทราบว่ามีปมใดมาแต่เล็กแต่น้อย พ่อเลือกจัง เฟ้นให้เจอคนที่ใช่ คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ใช่ คนกลุ่มนี้ก็ไม่ต่างจากพวกเราสาวโสดคือ มักจะพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น เจอสาวสวยที่ใช่ ในเวลาที่ไม่เหมาะสม มักแอบปิ๊งแฟนเพื่อน หรือคนที่แต่งงานไปแล้ว พวกเขาจึงได้แต่นั่งมองสาวสายเดี่ยวตามผับ แล้วตั้งหน้าทำมาหากิน จนในที่สุด จะถูกกระแสสงสัยว่าเป็นเกย์รึเปล่า คนไหนจิตอ่อนก็อาจเป็นไปจริงๆ คนไหนจิตแข็งหน่อยก็จะอยู่รอให้พวกเราสาวโสดได้พบเจอ ถ้าถูกใจกัน ก็รีบๆแต่งกันไปซะ ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศขึ้นภาษีคนโสด ซึ่งเป็นนโยบายในฝันของเดี๊ยน เพราะอาจช่วยผลักดันให้คนหาคู่ ลดภาวะโสดกันทั่วหน้าได้ ใครไม่เห็นแกหัวใจ ก็เห็นแก่เงินที่ต้องจ่ายไปปีละมากๆ นอกจากพี่น้องคนไหนอยากจะช่วยชาติ ก็อยู่โสดกันต่อไปเรื่อยๆ เดี๊ยนหน่ะขอช่วยชาติด้วยวิธีอื่นเถอะ ขอรอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาสอยลงจากหอคอยอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ก็หมอดูตั้งสี่สิบห้าคนเค้าฟันธงไปแล้ว ได้แต่งแน่ๆ เดี๊ยนก็จะ รอ รอ รอ และรอ ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น