วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ร้านกาแฟเก๋ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา


ร้าน Vivi อยู่ท่าเตียนค่ะ ครั้งแรกที่ไปคือเพื่อนที่บ้านอยู่ท่าเตียนแนะนำไปค่ะ ปิ๊งเลยทันที ร้านน่านั่งมากๆ ตกแต่งน่ารัก ของกระจุ๊กกระจิ๊กเป็นแนว vintage กลิ่นอายยุโรป เราชอบเหล็กดัดลวดลายยุโรปที่กั้นร้านกับตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ร้านขายกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆด้วย มีไอศกรีมและเค้กโฮมเมดให้เลือกทานร่วมค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศตอนบ่ายไม่ต้องให้บรรยายหรอกค่ะ คุณไปลองเองดีกว่า บอกได้แค่ว่า ชิลมากๆ ร้านหาไม่ยาก อยู่ด้านหลังโรงเรียนตั้งตรงจิตร ปากซอยมีธนาคาร CIMB ป้ายแดงๆ และมีป้ายบูติคโฮเต็ล Arum the River Place ด้วยค่ะ แต่ที่จอดรถหายากมากกกกกก อย่าคิดหักรถเข้ามาในซอยเลย เพราะตันค่ะ ทางร้านบอกให้จอดซอยข้างตั้งตรงจิตร หรือเลยไปซอยข้างวัดโพธิ์ได้ค่ะ วันธรรมดาได้ถึง 4 โมงเย็น วันเสาร์ไม่แน่ใจแต่วันอาทิตย์รู้สึกจะได้ทั้งวัน ประมาณนี้นะ


ซอยใกล้ๆกันมีอีกบูติคโฮเต็ลนึง จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว แต่อยู่ในซอยที่สังเกตง่ายมาก เพราะทางเข้าปูด้วยกระเบื้องยาง ดูสวยหรูกว่าซอยอื่นๆบริเวณนั้น โรงแรมนี้มี coffee shop อยู่ชั้นดาดฟ้า และมีร้านอาหารอยู่ชั้นล่าง วิวสุดยอดมองไปเห็นพระปรางค์วัดอรุณตรงเด๊ะ ได้ยินว่าราคาค่อนข้างแพงเลยล่ะ เราไม่เคยนั่งทาน ได้แต่ไปขอดูสถานที่ ทางร้านใจดีให้บุกถึงชั้นบนสุด


แต่ Vivi นี่ราคาธรรมดาๆค่ะ แบบไม่ต้องไฮโซก็ทานได้ นั่งได้นาน กระเป๋าไม่ฉีก


สี่สิบห้าหมอดูฟันธง...ได้แต่งแน่ (มาตั้งแต่ยี่สิบห้า)

เป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ได้ง่ายๆระหว่างสาวโสดกับหมอดู สองปีก่อนดิฉันจำได้ว่าตัวเองไปดูดวงมาถึงสิบเอ็ดเจ้า นี่นับเอาเฉพาะพวกที่ดูวันเดือนปีเกิดนะคะ ประเภทยิปซี ลายมือ กราฟชีวิตไม่ได้นับรวมเข้ามา เป็นไงละ บ้าไหม พอเวลาผ่านมา ยังนึกด่าตัวเองว่าอะไรจะทำได้ปานนั้น แต่ที่ว่าดูมาสิบเอ็ดเจ้าก็ไม่ใช่สถิติที่สูงสุดอะไร และที่ดูก็ไม่ได้ว่าด้วยเรื่องเนื้อคู่ล้วนๆนะคะ จริงๆเรื่องคู่ตอนนั้นเป็นคำถามสุดท้ายด้วยซ้ำไป แหะๆ ไม่ได้ไม่สนใจอะไรหรอก แต่เหมือนเวลาทานก๋วยเตี๋ยวอ่ะของชอบต้องเก็บไว้ทานทีหลัง เช่นต้องทานเส้นทานผักก่อนลูกชิ้นเก็บไว้ทานตอนสุดท้าย ขอสารภาพว่าตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบเจ็ดไม่เคยดูดวงมาก่อนเลย จะมีก็ประเภทคนมีความรู้เค้าทักนิดๆหน่อยๆ เพราะความที่เป็นเด็กชีวิตก็เรื่อยๆไม่เชื่อว่าการได้รู้อะไรก่อนล่วงหน้ามันจะช่วยอะไรได้ เพราะท้าฟ้าลิขิตมาแล้วซะอย่าง สี่สิบห้าหมอดูก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ แต่จุดเริ่มต้นของการดูหมอของดิฉันอยู่ที่วันหนึ่งมีพี่ที่ทำงานมาทักว่า เราเกิดวันเดียวกันทำไมชื่อน้องใช้ตัวอักษรที่มีแต่กาลกิณีทั้งนั้น อารามคุณยายตั้งชื่อนี้ให้เพื่อให้พ้องกับชื่อพ่อและชื่อแม่ และที่ผ่านมาชีวิตก็ดีมาตลอด ดิฉันจึงยังไม่เชื่ออะไรมาก แต่หลังจากนั้นสิ เกิดเหตุการณ์แปลกๆสิบห้าล้านอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้น เช่น อยู่ดีเงินหาย โดนนายเรียกไปด่า เจรจาความไม่สำเร็จ แฟนก็หมกเม็ดเรื่องแฟนเก่า ช่วงนั้นจิตตกไม่เลยค่าคุณ แต่ก็ยังไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร และแล้ววันหนึ่งที่ลูกพี่ลูกน้องสาวสวยเกิดช้ำรัก โทรมาปรึกษาและขอให้เราเป็นที่พักใจ ด้วยความรักพี่รักน้อง เวลาว่างทั้งหมดจึงขอมอบให้หล่อน และเธอผู้นี้นี่เองที่เป็นผู้ชักนำดิฉันเข้าสู่วงการดูหมอ ลั้นลา เมื่อจิตใจของคุณพี่บาดเจ็บเพื่อนๆของหล่อนก็แนะนำ ให้ไปดูดวงสิเธอ เดี๊ยนเองไม่ได้สนับสนุนแต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม เพราะคิดว่าอะไรที่พี่เค้าทำแล้วสบายใจก็ทำไป สุดท้ายคุณเธอก็ลากเดี๊ยนไปนั่งดูไพ่ยิปซีด้วยจนได้ ด้วยใจไม่เคยคิดอยากจะดู แต่ทนแรงยั่วยุจากรอบข้างและความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหว พอพี่ดูเสร็จ ดิฉันจึงเข้าคิวดูต่อ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คำพูดแรกที่หมอดูทัก คือ ชื่อของน้องเป็นกาลกิณี เอาอีกแล้ว เป็นกาลกิณีแล้วจะเป็นอย่างไร พี่หมอดูก็บรรยายมาซะน่ากลัว ดังเช่น จะทำอะไรก็ยากลำบาก ความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆเหมือนคนอื่น ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น มีเรื่องชู้สาวคาวโลกีย์ ถ้าแต่งงานก็จะวินาศเพราะดาวมฤตยูเล็งที่การแต่งงาน แม่เจ้า ดิฉันเชื่อว่า ใครได้ฟังดังนี้ คงนั่งเฉยๆอยู่ไม่ได้ ไม่ได้จะให้ลุกขึ้นมาตบหมอดูนะคะ หมายถึง ทนอยู่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นไม่ได้

เหตุที่ตามมาก็คือ การเช็คดวงกับหมอดูท่านอื่นๆเพื่อความแน่ใจ อีกสี่หมอดูก็บอกตรงกัน ดิฉันไม่รอช้ารีบนำเรื่องเข้าปรึกษาคุณแม่ ฝ่ายมารดาดิฉันนี่ก็จิตอ่อน ใครว่ากระไร คุณเธอก็ว่าตามได้หมด แม่บอกว่า ‘เปลี่ยนสิลูก ถ้าเปลี่ยนแล้วสบายใจ แม่ไม่ว่าอะไร’ ส่วนแฟนหนุ่มที่คบกันอยู่ตอนนั้น ก็บอกว่า ‘ผมไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ก็เข้าใจว่าถ้ามีคนมาทักแล้ว เราจะขาดความเชื่อมั่น และจากนี้ไปพอมีอะไรไม่ดี คุณก็จะโทษชื่อ โทษดวง เพราะฉะนั้นผมว่าเปลี่ยนก็ดี’ รายนี้สนับสนุนให้เปลี่ยนตามความเชื่อทางจิตวิทยา ผลสรุปคือ ดิฉันต้องดั้นด้นและเสียสตางค์ไปหาอาจารย์ที่สามารถตั้งชื่อได้เจ๋งๆอีกสามสี่ราย กว่าจะได้ชื่อปัจจุบันมา ซึ่งต้องบอกว่า ชอบมาก และชีวิตก็ดีขึ้นจริงๆ ไม่ทราบแน่ว่าเป็นเพราะดวง เพราะพลังดวงดาวจากชื่อใหม่ หรือเพราะจิตวิทยา

แน่นอนที่สุด การพบปะหมอดู หรือพระอาจารย์ทั้งหลายเพื่อตั้งชื่อใหม่นั้น ดิฉันก็ขอให้พวกท่านดู
ดวงร่วมไปด้วย ใครจะบ้าขอแต่ชื่ออย่างเดียวไม่ดูดวงกันเล่า หมอดูท่านที่สองหลังจากแม่ยิปซีคนนั้น บอกว่า ชีวิตคู่ของดิฉันไม่แจ่มนัก ดวงเป็นดวงประ เวลามีรักมักต้องประกับคนอื่น ประเภทดวงรักสามเส้า ให้เลือกเอาเองว่า จะเป็นเส้าเก่า หรือ เส้าใหม่ของเขา แต่ให้ทำใจไว้ซะว่า ถ้ามีคู่ แฟนเราต้องมีกิ๊ก ข้างแฟนหนุ่มของดิฉันพอได้ฟังก็บอกว่า เป็นการเดาเสียมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็มีกิ๊ก แล้วถ้าหมอดูบอกว่าแฟนคุณจะรักคุณจริงจัง รักเดียวใจเดียว เกณฑ์ถูกจะน้อยกว่าทายว่าแฟนจะมีกิ๊ก ซึ่งถ้าพลาดจะทำให้ความน่าเชื่อถือของหมอตกต่ำลงไป

หมอดูคนต่อๆมาก็ทายอะไรคล้ายๆกัน ดิฉันเคยเอาดวงแฟนไปให้เขาดู ปรากฏว่า ดวงของเราทั้งคู่ตกลงที่ช่องหัวใจ แปลว่า เรารักเค้า เค้ารักเรา แต่ดวงหัวใจของทั้งคู่อยู่ในนรกภูมิ ฟังแล้วร้อนรุ่ม กินไม่ได้ นอนไม่หลับไปหลายคืน ที่เด็ดที่สุด คือ หมอดูคนที่ทำนายแม่นยำเรื่องอุบัติเหตุได้บอกดิฉันว่า เนื้อคู่เป็นคนในเครื่องแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำราจ หมอ วิศวกร ข้าราชการ หรือ คนที่มีอาชีพที่มีเกียรติ เฮ้ย หมอ แบบนี้มันก็ครอบคลุมเกินไปสิ กลุ่มเป้าหมายกว้างเหลือเกิน ไม่มีทางที่หมอจะผิดได้ บางหมอดูพูดเองมั่วเอง ไปดูสองครั้งเนื้อคู่เปลี่ยน ครั้งแรกบอกผิวคล้ำ ครั้งที่สองบอกผิวขาว เอ ตูจะเชื่อครั้งไหนดีเนี่ย บางท่านบอกเนื้อคู่จะต้องแก่กว่าคุณ บางหมอดูบอก คู่แท้ต้องด้อยกว่า เช่นอายุน้อยกว่า ฐานะด้อยกว่า หรือ การศึกษาต่ำกว่า บางหมอดูเข้าไปลึกซึ้งกว่านั้น บอกว่า เนื้อคู่ของคุณจะมาในรูปแบบให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยาก ก็แหงแหละ ถ้าเค้าไม่ช่วยชั้น ไม่ดูแลชั้น แล้วชั้นจะรับรักเค้าไหม ถ้าหมอดูบอก เนื้อคู่คุณ คือคนที่จะทำชั่วกับคุณสุดๆแต่คุณก็จะรักเค้า อย่างนี้สิ ปัญหาเกิดแน่ๆ

แต่สรุปว่าทุกหมอดูฟันธงว่าดิฉันได้แต่งงานแน่ๆ ‘ลูกเอ๊ยไม่ต้องกลัว อย่างหนูน่ะ ไม่มีทางอยู่โสดคนเดียวหรอก ต้องมีคนมาชวนกินข้าวกินน้ำเรื่อยๆแหละ’ ก็จริงค่ะ มีแต่คนมาชวนกินข้าวกินน้ำ ไม่มีใครชวนร่วมจดทะเบียนสมรสด้วยเลย ชีช้ำพอสมควรเหมือนกันนะ บางหมอดูบอกเดี๊ยนมีดวงแต่งงานสองครั้ง ครั้งแรกตอนยี่สิบห้า อีกครั้งตอนสามสิบ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากมีสองผัว ครั้งแรกที่มีคนมาขอแต่งให้ประวิงเวลาไปก่อน ถ้าเขาเป็นคู่แท้เขาจะรอเราได้ คู่แล้วไม่แคล้วกัน แต่ถ้าเขารอไม่ได้แสดงว่าไม่ใช่คู่แท้ ก็ไม่ต้องไปเสียดายเขา คู่แท้ของเราจะตามมาเจอเราเองเมื่อถึงเวลา ฟังแล้วเหมือนใครบางคนจะมารอเราที่ทางช้างเผือกยังไงยังงั้น ถามว่าเชื่อไหม ก็ไม่รู้สิคะ พอนึกย้อนไปตอนย่างยี่สิบห้า เดี๊ยนคบหากับใครอยู่เอ่ย อ้อ จำได้แล้ว ไอ้ชั่วคนนั้นเอง ชายคนนั้นเป็นคนหน้าตาดี แต่ไม่มีฐานะ การศึกษาก็บ้านๆ เป็นช่วงชีวิตที่อยากลืมไปเสีย ไอ้หมอนั่นมันอยากไปหางานทำที่อเมริกา นัยว่าจะไปขุดทอง แต่ภาษาอังกฤษใช้ไม่ได้ชนิดเรียกหมาฝรั่งยังไม่หันอ่ะคุณ มันคบกับเดี๊ยนเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ จำได้ว่ามันวางแผนการแต่งงานไว้ด้วยกะว่าแต่งกันแล้วจะไปเมืองนอกด้วยกัน ไปสร้างเนื้อสร้างตัว แต่โชคดีที่พระเจ้าเข้าข้างเดี๊ยนคราวนี้ ได้เผยให้เห็นธาตุแท้อันดำมืดของมันก่อน จึงถอนตัวออกมาทันท่วงที แหมดีนะ ถ้าหลวมตัวแต่งงานไป คงชีช้ำกะหล่ำปลีและได้หย่ากันแทบไม่ทันก่อนสามสิบ ซึ่งก็อาจเป็นผลให้คำทำนายของหมอดูท่านก่อนเป็นความจริงได้ว่าจะต้องวิวาห์สองครั้ง ดีแล้วหล่ะที่ไม่ลงเอย ไม่งั้นเสียของแย่เลย

ข้างฝ่ายลูกพี่ลูกน้องคนที่เปิดโลกหมอดูให้กับเดี๊ยนนั้น หมอดูทุกท่านก็ลงความเห็นว่า ได้แต่งแน่ๆ และแฟนจะดีและรวย ปรากฏว่าตอนนี้เธอสามสิบเจ็ดแล้ว ไม่ว่าจะคนดีหรือคนรวย ยังไม่เคยเห็นเงาหัว ที่ย่างกรายเข้ามาก็มีแต่ชั่วๆ หมอดูท่านหนึ่งทานแม่นบอกพี่สาวดิฉันว่า คนที่คบอยู่นี่ไม่ดี แต่คุณมีกรรมกับเขาอยู่ห้าครั้ง ต้องใช้กรรมให้ครบก่อน จึงจะหลุดกันไปได้ ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่คุณพี่สาวดิฉันนี่ก็ต้องใช้เวลาร่วมห้าปีกว่าจะตัดใจจากมันไปได้สนิท ทั้งที่ก่อนหน้าถูกทารุณจิตใจมานับครั้งไม่ถ้วน หล่อนก็ยังดำรงตนเป็นโจโจ้ซัง ชาตินี้ขอมีรักเดียวอยู่นั่นแล

จะไม่เล่าเรื่องเพื่อนฝูงก็กระไรอยู่นะ เพราะแต่ละนางนั้นเชี่ยวชาญชำนาญยุทธด้านการดูหมอมากๆ ที่ไหนว่าดี ว่าแม่น คุณเธอต้องดั้นด้นไป เมื่อถึงเวลาสาวๆมารวมตัว ก็จะต้องมีเม้าส์เรื่องหมอดูกันบ้างไม่มากก็น้อย คุณเพื่อนๆทุกนางนี่ มีดวงได้แต่งงานแน่ทั้งนั้น ไม่มีใครมีดวงโสดเลย แต่ข้อเท็จจริงก็คือ แต่ละนางตอนนี้ โสดสนิทบ้าง ไม่สนิทบ้าง เป็นการรวมตัวกันของสาวงามที่ยังค้างสต็อกมาจาก warehouse ต่างๆ เป็นสินค้าคุณภาพดี ไม่มีตำหนิ แต่ยังไม่ยอมขายออกไป เราจะไม่ใช้คำว่า ขายไม่ออก เพราะหลายทีที่เราปฏิเสธโอกาสด้วยตนเองเพราเห็นว่าผู้ชายพวกนั้นไม่ดีพอ สวยเลือกได้ค่ะ แต่ที่แน่ๆคือ แต่ละองค์นั้นเป็นสาวโสดคนสุดท้ายของกลุ่มเพื่อนมหาลัย พอได้มารวมตัวกัน จึงเกิดความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด และเกาะกันไว้แน่น จึงอยากบอกย้ำอีกครั้งว่า แยกกลุ่มกันบ้างก็ได้เพื่อน เพื่ออนาคต เราจะไม่ริษยากันและกัน นี่คือ คำมั่นสัญญา

เพื่อนรุ่นพี่ผู้เป็นสาวมั่นก็ผ่านการดูหมอมาอย่างโชกโชน ลักษณะเนื้อคู่ของหล่อนสวิงไปมา เดี๋ยวฝรั่ง เดี๋ยวคนไทย ไม่รู้เท็จจริงคืออะไร เพื่อนสาวขาวหมวยนิสัยขรึม หมอดูบอก เนื้อคู่จะพบที่ทำงาน และจากการแนะนำของเพื่อน เพื่อนสาวลูกครึ่งนอกจากถูกเขยิบอายุของเนื้อคู่ลงมาเรื่อยๆยังถูกขยายเวลาการพบเจอออกไปอีกด้วย จนปัจจุบัน หมอขอฟันธงว่า ไม่เกินสามปีเจอแน่ เจอแล้วไม่ต้องดูใจนาน ไม่เกินหกเดือนแต่งได้ทันที ก็แหงสิคะ เวลาก็งวดเข้ามาทุกที เดี๋ยวจะมีลูกไม่ทันใช้ แต่ละนางแม้จะไม่เชื่อหมอดูเต็มร้อย ด้วยความที่คำทำนายไม่ได้ตรงกันเอาเสียเลย แต่ถ้าคุณหมอดูบอกให้แก้ดวงด้วยอะไร เราจะแทคทีมทำมันในทันที ไม่ว่าจะเป็นปล่อยปลา ไหว้พระราหู ติดทองที่หน้าบ้าน ทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้า ทำสังฆทาน ซื้อโลงศพให้เจ้ากรรมนายเวร เปลี่ยนชื่อ โอย ว่ามาเถอะพวกเดี๊ยนทำกันมาหมดแล้ว แต่มันก็ยังไม่สัมฤทธิ์ผล พวกเราไม่ได้งมงาย แต่ก็ทำเพื่อความสบายใจและความสมัครใจ และบางทีเราก็สนุกสนานกันไปด้วย

อย่างทีเคยบอกไป ถ้าคุณรู้จักพวกเรา คุณจะไม่เชื่อว่าทำไมเราถึงยังโสดกันได้อยู่ เพราะเราก็เหมือนพวกคุณนี่แหละ เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่อยากมีความรัก อยากมีคนรักจริง และอยากมีอนาคต และสร้างครอบครัวที่ดีและแข็งแรง แต่พระเจ้ายังไม่เข้าข้าง พวกเราเลยได้แต่นั่งท่องสุภาษิต ช้าๆได้พร้าเล่มงามกันไปก่อน แม้ที่ผ่านมาสุภาษิตแนวป่าๆที่เห็นจะเป็นจริงจะมีก็แต่ พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่นเสมอ ประเภทเจอคนที่ใช่ ในเวลาที่ไม่ควร ผู้ชายดีๆ มีเมียกันไปหมดแล้ว ตอนนี้เป้าหมายของเราคงเหลืออยู่สองทาง คือ เลือกคนที่อายุน้อยกว่าหน่อย หรือไม่ก็รอคนที่แต่งงานแล้วมันเลิกกัน หรือ เมียตาย เฮ้อ งานนี้ท่าจะยาก และออกแนวบาปๆด้วย คงไม่ดีต่อสุขภาพกายและจิต

ขอเล่าเรื่องความแม่นของหมอดูบ้าง เดี๋ยวจะหาว่ามองโลกแต่ในแง่ร้ายๆ เดี๊ยนมีเพื่อนสาวอยู่อีกนางที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาแต่ครั้งเรียนปริญญาตรี เพื่อนคนนี้มีแฟนอายุน้อยกว่าที่คบกันมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่งจนเรียนจบแล้วก็ไม่มีแววเลิกรา รักใครกันดี แม้มารดาฝ่ายหญิงจะพยายามกีดกัน แต่เขาและเธอก็ฟันฝ่ามาได้เหมือนในภาพยนตร์เกาหลี แต่หลังจากเรียนจบมาได้สักสามปี เพื่อนเดี๊ยนคนนี้ก็ได้ฤกษ์ไปต่อโทต่างประเทศ หล่อนไปได้แค่หนึ่งเทอม ผลปรากฏว่ามีคนใหม่เข้ามาจีบ ความรักที่เคยเหนียวแน่นเกิดสั่นคลอน คนหนึ่งคบหากันมานานกว่าหกปี อีกคนเพิ่งรู้จักได้หกเดือน เพื่อนคนนี้ตัดสินใจไม่ได้ จึงหันหน้าเข้าหมอดูตามระเบียบ ซึ่งการนี้เดี๊ยนเองเป็นคนจัดแจงหาหมอดูที่เค้าว่าแม่นนักแม่นหนา คุณลุงหมอบอกว่าเพื่อนมีดวงได้แต่งงานในอีกหกเดือนข้างหน้า ซึ่งฟังดูเลื่อนลอยนัก เพราะมันเร็วเกินไป เรียนโทก็ยังไม่ทันจบ หมอบอกว่าเพื่อนจะตัดสินใจได้ภายในสิ้นปีนั้นและเมื่อปลงใจแล้วจะแต่งงานเลยทันที แถมบอกให้เพื่อนไปแก้ดวงและเปลี่ยนชื่อให้มีศรีมีเสน่ห์มากขึ้น เพื่อนคนนี้เชื่อและไปทำตามทุกประการ หลังจากคุณเธอเดินทางกลับไปเรียนต่อเทอมที่สองและสาม จนเดี๊ยนลืมไปเสียสนิท วันหนึ่งก็ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากหล่อนว่า เรียนจบแล้วนะ จะกลับบ้านเดือนหน้าและจะมาแต่งงานด้วย ได้ฤกษ์และจองโรงแรมไว้แล้ว เจ้าบ่าวเป็นหนุ่มหน้ามนคนที่เรียนด้วยกันที่โน่น ถึงจะแลดูกะทันหันแต่ก็ไม่ได้เป็นเพราะพิษไข้แตงโม มันเป็นไปตามดวงล้วนๆ เพื่อนคนนี้ตอนนี้ย้ายถิ่นฐานไปพำนักกับสามีที่ต่างจังหวัดมีลูกทันใช้แล้วหนึ่งหน่อ น่าอิจฉาเป็นที่สุด ชีวิตครอบครัวราบรื่น สามีร่ำรวย แม่ยายและอาม่ารักและเอ็นดูดุจลูกในไส้

เรื่องแต่งงานและเนื้อคู่เป็นเรื่องของกรรมเวร ใครทำกรรมดีก็ได้พบเจอเนื้อคู่ที่ดีในเร็ววัน ใครมีกรรมเก่าติดค้างใครไว้ ก็ต้องรอนแรมไร้คู่ไปสักระยะ แต่ระยะของเดี๊ยนนั้นจะยาวไปถึงไหนกันนะ เคยได้รับforward เมล์ว่า คนที่ไม่มีคู่ อาจเพราะชาติก่อนเคยร่วมสาบานรักกับใครคนหนึ่งไว้ ชาตินี้ เลยต้อง รอใครคนนั้นไปเรื่อยๆ ใครหน้าไหนที่เวียนมาบรรจบก็ไม่สามารถลงเอยกันได้ ด้วยผลแห่งกรรมเก่าที่ผูกพันกับใครคนหนึ่งไว้แล้ว หากอยากหลุดพ้นให้ทำบุญกรวดน้ำและเอ่ยวาจาสัตย์ ขออโหสิหรือยุติกรรมที่มีไว้ร่วมกัน จริงเท็จประการใดไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ทำแล้วสบายใจ ก็คงไม่เสียหายที่จะทำนะ ว่าไหมคะ
อยากรู้จังว่าเหล่าชายแท้ที่อายุเกินสามสิบแล้วยังไม่ได้แต่งงานเหมือนเรา เขาจะมีความรู้สึกเช่นไร จะสุขจะทุกข์ จะรู้ร้อนหนาวอย่างเราหรือไม่ เดี๊ยนสังเกตแล้วพอจำแนกความรู้สึกของชายโสดได้ว่า พวกนักเที่ยวล่าเด็กจะยังไม่รู้สึกอะไร นอกจากอิสระไร้ขีดจำกัด สบายสุดๆ เป็นพี่ที่น่าอิจฉาของบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูง พวกหนอนหนังสือบางคนอาจเริ่มกังวลบ้าง แต่คนไหนที่ทางบ้านเริ่งรัดจะเริ่มกังวลเป็นพิเศษ และหันมาใช้บริการแม่สื่อแม่ชักทั้งระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น หนุ่มโสดกลุ่มนี้ หากเพื่อนสาวไสดได้เจอนับว่าโชคดี เพราะเขาจะไม่ดูอะไรมากและพร้อมแต่งงานกับคุณภายในสามวันเจ็ดวัน พวกหนุ่มเลือกมาก ไม่ทราบว่ามีปมใดมาแต่เล็กแต่น้อย พ่อเลือกจัง เฟ้นให้เจอคนที่ใช่ คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ใช่ คนกลุ่มนี้ก็ไม่ต่างจากพวกเราสาวโสดคือ มักจะพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น เจอสาวสวยที่ใช่ ในเวลาที่ไม่เหมาะสม มักแอบปิ๊งแฟนเพื่อน หรือคนที่แต่งงานไปแล้ว พวกเขาจึงได้แต่นั่งมองสาวสายเดี่ยวตามผับ แล้วตั้งหน้าทำมาหากิน จนในที่สุด จะถูกกระแสสงสัยว่าเป็นเกย์รึเปล่า คนไหนจิตอ่อนก็อาจเป็นไปจริงๆ คนไหนจิตแข็งหน่อยก็จะอยู่รอให้พวกเราสาวโสดได้พบเจอ ถ้าถูกใจกัน ก็รีบๆแต่งกันไปซะ ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศขึ้นภาษีคนโสด ซึ่งเป็นนโยบายในฝันของเดี๊ยน เพราะอาจช่วยผลักดันให้คนหาคู่ ลดภาวะโสดกันทั่วหน้าได้ ใครไม่เห็นแกหัวใจ ก็เห็นแก่เงินที่ต้องจ่ายไปปีละมากๆ นอกจากพี่น้องคนไหนอยากจะช่วยชาติ ก็อยู่โสดกันต่อไปเรื่อยๆ เดี๊ยนหน่ะขอช่วยชาติด้วยวิธีอื่นเถอะ ขอรอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาสอยลงจากหอคอยอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ก็หมอดูตั้งสี่สิบห้าคนเค้าฟันธงไปแล้ว ได้แต่งแน่ๆ เดี๊ยนก็จะ รอ รอ รอ และรอ ค่ะ

สารพันนัดบอด

เมื่อตัวของตนไม่มีความสามารถพอจะหาคู่มาตุนาหงันได้ งานนี้ก็ต้องอาศัยอาชีพดั้งเดิมแต่ครั้งปิรามิดเพิ่งเริ่มสร้าง นั่นคือ แม่สื่อแม่ชัก ไม่อยากจะเชื่อว่า ชีวิตนี้สาวมั่นอย่างเราต้องหันมาพึ่งบริการแม่สื่อเพื่อหาคู่ แต่ก็นั่นแหละ แม่สื่อนี้ ก็มีทั้งแบบมืออาชีพและมือสมัครเล่น พวกมืออาชีพนี่ ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากหมู่เพื่อนฝูงในวงการของเดี๊ยนเท่าไหร่นัก เหตุด้วย หน้าบางเจ้าค่ะ อายที่จะต้องทำอะไรแบบนั้น เพื่อนสาวขาวหมวยคนหนึ่ง ให้เหตุผลว่า ‘มันดูตั้งใจเกินไป’ เพื่อนรุ่นพี่สาวมั่นบอกว่า ‘ชั้นไม่ได้ desperate ขนาดนั้น’ แต่ด้วยเหตุที่ธรรมชาติเรียกร้อง พวกเธอจึงหันไปพึ่งแม่สื่อประเภทที่สองมากกว่า นั่นก็คือ แม่สื่อจำเป็น ซึ่งอาจเป็นเพื่อนที่แต่งงานหรือมีแฟนจริงจังไปแล้ว โปรดอย่าใช้บริการของเพื่อนสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือมีแฟนแต่ดูไม่จริงจัง เพราะหล่อนจะคาบเขาไปรับประทานเสียก่อน ดังสุภาษิตโบราณว่าไว้ว่า แม่สื่อแม่ชักมักชักเข้าตัว แม่ก็ชักผู้ชายเข้าหาตนเอง บางแม่สื่อก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่เพราะเคมีบางอย่างของผู้เป็นแม่สื่อและชายผู้ถูกชักที่มักจะตรงกัน อาจเป็นที่ความเข้าอกเข้าใจ ที่แม่สื่อมีให้ต่อฝ่ายชาย ในขณะที่เราตัวกลางนั้นต้องวางฟอร์มต่างๆนานา เพื่อให้ได้มาซึ่งแฟนที่จะเป็นว่าที่สามีในอนาคต พวกแม่สื่อเธอสามารถเป็นตัวของตัวเอง และได้แสดงเสน่ห์ที่แอบแฝงของหล่อนได้อย่างแยบคาย หลายคนถึงกับต้องเสียเพื่อนไป เนื่องด้วยเกิดเหตุคล้ายๆว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ แอบกินเวลาเราเผลอ เรื่องนี้พูดไปก็ปวดร้าว เกรงว่าจะเข้าตัวใครหลายๆคน เพราะสาววัยอย่างเราๆนั้น ถ้าไม่เคยชักใครให้ใคร ก็คงต้องเคยถูกใครชักให้กับใครบ้าง อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งละน่า แหมคุณ ผ่านมาสามสิบฝน สามสิบหนาวแล้ว

เริ่มเล่าก่อนเลยว่า เดี๊ยนนั้นถนัดและชอบนักที่จะเป็นแม่สื่อจำเป็นให้เพื่อน ด้วยเชื่อว่า ความดีทำไปเถิดไม่เสียหลาย เพื่อนมีความสุข เราก็ได้บุญ แล้วบุญนี้จะนำพาเราไปให้ได้คนดีดีมาครอบครองเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวโสดคนไหนดูน่าจะเหมาะกับเพื่อนชายคนไหนที่ไม่มีใครใช้แล้ว แต่ยังสภาพดีอยู่ เดี๊ยนก็มักจะชักพามาให้เขาได้รู้จักมักจี่กัน แต่ด้วยความที่เป็นแม่สื่อที่มีคุณธรรม เดี๊ยนจะปลีกตัวออกห่างทันทีที่เห็นว่าทั้งสองต้องใจกัน และฝ่ายชายไม่งี่เง่าจนเกินไป จะได้ไม่เกิดปัญหาอื่นๆตามมา แต่ที่ผ่านมาแล้ว อาชีพแม่สื่อของเดี๊ยนนั้นไม่ใครประสบความสำเร็จนัก ส่วนใหญ่ถ้าไม่เจ๊งตั้งแต่ครั้งแรกๆ ก็อาจคบกันได้ไม่ยืด ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร หรือพจนานุกรมจะบัญญัติไว้ว่า แม่สื่อที่ดีต้องมีครอบครัวแล้ว จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีแค่คู่ต่อๆมา แม่สื่อที่ยังโสดอยู่ ถือเป็นแม่สื่อที่ด้อยคุณภาพเนื่องจากว่า ไม่มีฮอร์โมนชีวิตคู่ เออว่าเข้าไปนั่น แต่ไม่รู้แหละ คนคิดดี หวังดี แต่ทำความดีไม่ขึ้น หาคู่ให้ตัวเองไม่ได้ คิดจะหาให้คนอื่นก็ยังไม่สำเร็จ

เมื่อสื่อชักกันแล้ว เรื่องที่ขาดเสียไม่ได้คือการนัดบอด นัดบอดสมัยนี้มันก็ไม่ใช่แบบบอดสนิทที่ว่าคุณจะใส่เสื้อสีนั้น ชั้นจะนุ่งกระโปรงสีนี้ หรือผมจะปักดอกกุหลาบแดงที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายนะครับ นัดบอดยุคนี้นิยมแม่สื่อไปด้วย หรือไม่พวกที่ไฮเทคหน่อยก็ได้มีการสำรวจหน้าค่าตากันมาแล้วจาก hi5 หรือ facebook เพราะฉะนั้น การนัดบอดในปัจจุบันจึงไม่บอดจริง ขอเล่าจากประสบการณ์ตรงของทั้งตนเองและเหล่าเพื่อนสนิทที่ใช้บริการนี้มาบ้างพอหอมปากหอมคอ หลายนัดก็ลงเอยได้เป็นเพื่อน หลายนัดก็ควงกันอยู่พักหนึ่ง และอีกหลายนัดที่จบลงด้วยคราบเลือดและน้ำตา

เริ่มเล่าจากเรื่องล่าสุดก่อน เดี๊ยนนัดให้วิภาวีได้รู้จักกับชายหนุ่มวิศวกรเพื่อนของเพื่อน ทั้งคู่ยังโสดและจบปริญญาจากเมืองนอกเหมือนกัน เป็นธรรมดาที่เราต้องสร้างพล็อตเพื่อให้เกิดการดูดี และพล้อตยอดฮิตในหมู่สาวๆกับหนุ่มวิศวกรคือ เรื่อง คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะมีปัญหาคอมพิวเตอร์มาปรึกษา หรือไม่ก็ขอให้ช่วยแนะนำแลปท็อปรุ่นใหม่ให้หน่อย บางทีก็เป็นเรื่องของรถยนต์หรือเครื่องยนต์กลไกที่เราไม่ถนัดเลย ฝ่ายชายพอรู้ว่าฝ่ายหญิงมีความสามารถทางภาษามากกว่าตน ก็มักจะเอางานเอาบทความมาถามความคิดเห็น บางคนก็ขอให้ช่วยแปลหน่อยสิครับ ขอบอกไว้นะตรงนี้เลยนะว่า พลาด พลาด พลาดอย่างมาก เพราะเราขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจแปลให้ จะจีบก็ชวนดื่มน้ำชากาแฟฟดีกว่า อย่ามาใช้งานกันเลยได้โปรด คู่ที่เริ่มแบบนี้ ถ้าฝ่ายหญิงไม่ nerd จริง ขอการันตีว่า เอาแห้วไปรับประทานได้เลย ขอเล่าเรื่องวิภาวีกับอีตานั่นต่อ พล้อตที่สร้างไว้ก็เป็นแบบมาตรฐาน คือ สาวต้องการซื้อแลปท็อปและต้องการคำแนะนำ ฝ่ายชายชำนาญทางคอมพิวเตอร์ จึงพาสาวไปเดินที่พันธ์ทิพย์พลาซ่า ดีแค่ไหน ที่เขาไม่เสนอให้ประกอบเอง เดินจนน่องสึก ก็ไม่ถูกใจสักที ฝ่ายหญิงออกอาการเพลียมากแล้ว ในขณะที่ฝ่ายชายนั้นดื่มด่ำกับของชอบอย่างไม่ลืมหูลืมตา ผลปรากฏว่า คนที่ซื้อของได้มาถุงใหญ่ คือ ฝ่ายชายของเรา ในขณะที่ฝ่ายหญิงได้ปากกาเขียนซีดีมาแท่งเดียว
จะด้วยความไม่มีเสน่ห์ของฝ่ายชายหรือความงกก็ไม่ทราบได้ น้ำอดน้ำทนของเขามีมาก เดินขาลากตั้งแต่สิบเอ้ดโมงยันสี่โมงครึ่ง ไม่มีชี้ชวนหาน้ำดื่ม หรือ อาหารว่างสักนิด เอ หรือเขากะจะชวนดินเนอร์ วิภาวีของเราก็คิดในแง่ดีไว้ก่อน จนห้าโมงครึ่งไม่มีทีท่าจะชวนทานอะไรเลย ฝ่ายหญิงทนไม่ได้จึงเริ่มชวนก่อน ทั้งคู่ขับถตามกันออกจากพันธุ์ทิพย์ไปคนละคัน ตามคำแนะนำของหญิงสาวว่ารู้จักร้านเค้กอร่อยระหว่างทางกลับบ้าน จนมาถึงร้านเค้กกลางถนนสาธร ร้านสวย เข้ารสนิยมหญิงสาว แต่ชายหนุ่มนั้นออกอาการประหม่าจนไม่อยากจะเชื่อว่าจบปริญญามาจากเมืองนอกเมืองนา ครั้นบิลมาเรียกเก็บเงิน ราคาค่าเค้กกับกาแฟเย็นก็อักโขอยู่ ฝ่ายหญิงเสนอก่อนว่าตนจะเลี้ยงเอง เพราะวันนี้มาธุระของหล่อน ทายสิคะ ฝ่ายชายตอบว่าอย่างไร คุณทายละสิว่า เขาตกลง เปล่าเลยเขาไม่ได้ตกลง งั้นเขาก็คงรักษามารยาท ขอเป็นฝ่ายเลี้ยงเองแน่นอน ก็ผิดอีก เขาบอกว่า ‘หารกันดีกว่าครับ’ เป็นไง น่ารักไหมคะ ปรากฏว่าคู่นี่ก็ไม่ลงเอยกันตามคาด

เพื่อนอีกคนเปลี่ยนเป้าหมายไปเดทฝรั่งเพราะคิดว่าคงไม่คิดเล็กคิดน้อยเท่าคนไทย และคงไม่แคร์ถ้าเธอจะมีการศึกษาที่สูงกว่า งานนี้ก้ปวดร้าวมาอีก เพราะคบกันไป ถูกันมา จนงงว่า ตกลงเราเป็นอะไรกัน เพื่อนกันไม่ทำแบบนี้ ฝรั่งชายตาน้ำข้าวก็ยังยืนยัย นั่งก็ยัน นอนก็ยันว่า ยูเป็นเพื่อนที่พิเศษที่สุดที่ไอเคยมี เพื่อนเดี๊ยนก็ยังสู้ เอาวะ เพื่อนก็เพื่อน แต่ลักษณะการคบกันแบบนี้ คำพูดแบบนี้ สายตาแบบนี้ กิริยาอาการแบบนี้ ไอว่ามันไม่เพื่อนนะ อีกสองเดือนหล่อนก็ถามเขาอีก ตกลงเราเป็นอะไรกัน คราวนี้ ฝรั่งถอนหายใจยาว ก่อนจะตอบว่า ไอไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ที่ดีของเราด้วยการเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน พูดแบบนี้ ง่ายนะ แต่ฟังเข้าใจยาก เพื่อนสาวของดิฉันพยายามคิดทบทวนอยู่หลายคืน ถามเกจิก้แล้ว กูรูก็แล้ว ก็ยังไม่รู้แจ้งว่า ทำไมถ้าเป็นแฟน ความสัมพันธ์จะไม่ดีหรือ หลายกูรูจึงแอบฟันธงว่า มันคงมีเมียแล้วแหละ ความจริงจะยังไงก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ ชายคนนี้ไม่ต้องการผูกมัด นี่ก็เป็นอีกข้อด้อยของการคบต่างชาติเพราะมีแนวโน้มสูงมากที่พวกนี้จะไม่ชอบการลงเอยหรือผูกมัดกับใครคนใดคนหนึ่ง คุณก็จะเป็นได้แค่ special friend ต่อไป

เพื่อนสาวขาวหมวย ฉายา ป๊าม๊าเลี้ยงได้ก็เคยผ่านการนัดบอดมาแล้วสองสามครั้ง และทุกครั้งก้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะเธอเป็นคนเงียบๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นสเป็คของผู้ชายเรียบๆหลายๆคน เพื่อนฝูงที่ recruit ผู้ชายมาแนะนำให้ ก็เฟ้นมาแล้วว่า หนุ่มพวกนั้นบอกว่าชอบผู้หญิงเรียบร้อย แต่ผู้ชายก็แปลกนะ คล้ายจะปากอย่าง ใจอย่าง ก่อนเจอบอกชอบคนเรียบร้อย หลังเจอบอกน้องเค้าเงียบมาก และผมว่าผมอาจชอบคนสนุกสนาน มันช่างไม่มีความชัดเจนเอาเสียเลย เพื่อนคนนี้จริงๆไม่ชอบการนัดบอดเลย เพราะหล่อนเงียบและไม่ช่างพูด การนัดบอดดูจะเป็นการสร้างความอึดอัดให้ทั้งสองฝ่ายมากกว่า ไม่นานมานี้หล่อนมาสารภาพกับดิฉันว่า เคยชอบชายคนหนึ่งที่ได้นัดบอดด้วยเมื่อสองปีก่อน แต่เพราะว่าเป้นการนัดดูตัวนี่แหละที่เสมือนดาบสองคม ฝ่ายหญิงจะแสดงท่าทีเป็นมิตรมากก็ไม่ได้ กลัวฝ่ายชายจะหาว่ามีใจ ฝ่ายชายก็จะออกเสต็ปมากไม่ได้ เพราะกลัวถูกหาว่าหน้าหม้อ หรือเกรงใจคนแนะนำ สรุปก็เอาแห้วไปรับประทานทั้งคู่ แต่ผู้หญิงเสียเปรียบกว่าตรงที่ พอเราเงียบไม่เจรจาฮาเฮ ผู้ชายก็มักจะสรุปเหมาเอาว่า เราเงียบเพราะหยิ่ง นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ยังหาทางออกไม่ได้ เมื่อตัวตนของเราเป็นแบบนี้และการนัดบอดก็เสมือนดาบสองคมที่ทั้งสองต้องวางตนอยู่ในม่านประเพณี ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นก็ถูกสะกดกลั้นไว้ แล้วโดยมากถ้าฝ่ายชายไม่ใช่นักสู้เจนสังเวียน การจับคู่ครั้งนี้ก็จะล่มลง และจบลงที่การเขินอายไม่กล้ามองหน้ากันไปอีกแรมปี เพื่อนดิฉันก็เคยคิดจะเริ่มติดต่อหนุ่มคนนั้นกลับไปก่อน เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ แต่ก็ไม่กล้าด้วยกลัวว่าจะไม่งาม ทั้งที่รู้มาแล้วว่าฝ่ายชายก็ยังโสดเช่นกัน เฮ้อ ไม่รู้จะช่วยยังไงได้

นัดบอดเป็นพิษก็มีหลายราย ดังที่ได้เล่าไปในบทก่อนที่ผู้ชายหวังมาเพื่อฟัน พอไม่ได้สมอารมณ์หมายก็มาประนามหาว่าฝ่ายหญิงเป็นพวกฝักใฝ่เพศเดียวกัน พวกนี้ไม่แมนมากๆ ผู้ชายบางคนจะนัดเจอสาวต้องขอดูรูปร่างก่อน เคยมีรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่สนิทเท่าไหร่ พอดิฉันรู้ว่าเขาโสดจึงพยายามจะจับคู่ให้กับเพื่อนสาวที่เห็นว่าจะไปกันได้ คำถามแรกคือ รูปร่างเป็นยังไงครับ หน้าตาดีไหม ทำไมผู้ชายต้องกังวลที่รูปลักษณ์ภายนอกมากขนาดนั้น ในขณะที่ดิฉันเชื่อว่าคำถามแรกจากฝ่ายหญฺงน่าจะเป็น ทำงานอะไร นิสัยดีไหม ส่วนหล่อไหมน่าจะเป็นคำถามที่สอง และสูงไหม คงจะเป็นคำถามที่สาม รวยไหม อาจจะเป็นคำถามที่สี่ เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่าชายและหญิงสนใจในจุดที่ต่างกันเวลาจะคบหรือเดทกับใคร ฝ่ายชายมุ่งเป้าไปที่รูปร่างหน้าตา ส่วนฝ่ายหญิงสนใจที่อาชีพการงาน อนาคต รูปร่างหน้าตาเป็นเรื่องรอง

บางคู่นิยมสนทนากันทางโทรศัพท์ ศึกษานิสัยใจคอกันจนพออกพอใจ และเชื่อว่าไม่พลาดแน่คนนี้และทั้งสองฝ่ายก็ยอมรับว่าไม่สนใจที่รูปร่างหน้าตาเพราะแม่สื่อการันตีแล้วว่า โอเค น่ารัก สำหรับฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายชายก็ ไม่หล่อมาก ไม่สูงมาก แต่ก็ไม่น่าเกลียด คำว่าธรรมดาๆ ก็ดูจะเพียงพอแล้วสำหรับฝ่ายหญิง ในขณะที่คำว่า ธรรมดาถ้าใช้บรรยายฝ่ายหญิงจะทำให้ความสนใจลดต่ำลงทันที แต่คู่นี้ไม่สนเปลือกนอก ทั้งคู่คุยโทรศัพท์กันมาแรมเดือน ก่อนตัดสินใจนัดเจอกัน งานนี้ไม่ต้องอาศัยแม่สื่อพาไปเจอ ทั้งสองมั่นใจ คุยกันมาแล้ว รู้จักกันดี จิตใจเธอสำคัญกว่าหน้าตา พอเจอกัน ก็ไม่ได้มีปัญหาที่รูปร่างหรือหน้าตาเลย แต่มันไม่คลิ๊ก ฝ่ายชายว่าคุยโทรศัพท์กันดีกว่า พอเจอตัวแล้ว เหมือนรถน้ำมันหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าแปลว่าอะไร

กิจการนัดบอกแบบตั้งใจของดิฉันไม่ค่อยจะสำเร็จอย่างที่เคยบอก แต่การทำให้สองคนรู้จักกันได้โดยไม่ตั้งใจนี่สิมักสัมฤทธิ์ผลเกินคาด จนบางทีก็น่าอิจฉา ดิฉันมีเพื่อนผู้หญิงอกหักอยู่คน หน้าตาน่ารัก ออกแนวด๊อแด๊ อ่อนแอ อ่อนต่อโลก พออกหักก็ลาออกจากงาน ดิฉันแนะนำให้ไปสมัครงานที่ที่พ่อเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัท ไม่เกินสามเดือน เพื่อนสาวคนนั้นกับเพื่อนหนุ่มลูกชายเจ้าของบริษัทก็คบกันอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะชน ยกเว้นต่อดิฉันคนเดียว เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะคุณเธอรู้น่ะสิว่า ชั้นรู้ว่าหล่อนยังคงติดต่อกับไอ้แฟนเก่าอยู่ งานนี้เดี๊ยนก็เสียเพื่อนไปสองคน เพื่อนผู้ชายเพราะไม่อยากเจอหน้ามันพร้อมต่อมโง่ เพื่อนผู้หญิงที่หล่อนไม่ยอมมาเจอหน้าชั้นเอง เพราะแสลงใจ เฮ้อ ลงเอยแบบเศร้าๆ แต่เขาก็แต่งงานกัน ตอนนี้มีลูกสองคน คนโตเข้าโรงเรียนไปแล้ว

สรุปแล้ว การนัดบอดนี่จะสนุกตอนวางแผนเสียมากกว่า กับช่วงติดตามผลระยะแรก ผลลัพธ์มักไม่ค่อยน่าปลื้ม พวกตัวลุ้นดูจะสนุกมากกว่าตัวแสดง เพราะทั้งสองฝ่ายจะออกแนวเกร็ง บางคนก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง บางคนก็เป็นตัวของตัวเองจนเกินไปตั้งแต่ครั้งแรกจนแลดูน่าสะพรึงกลัว แต่ก็เพราะความเกร็ง หรือความที่ต่างฝ่ายต่างรู้นี่แหละว่านัดนี้เป็นการดูตัว การจะออกเสต็ปอะไรก็เลยไม่เต็มที่โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่ต้องวางมาด ให้เหมาะสมกับเป็นคนที่เพื่อนหรือพ่อแม่เลือกมาให้ สุดท้ายก็เลยรับประทานแห้วกันเสียส่วนใหญ่ ออกแนว เพื่อนมันส์ ญาติสนุก แต่ก็ไม่เป็นไร นัดใหม่ก็ได้ ผู้ชายยังมีให้เลือกอีกมาก

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Spending weekends with me??


เสาร์-อาทิตย์ อยากไปชิลเอ้าท์ แต่ก็กลัวแดด กลัวอากาศร้อน สุดท้ายเลยต้องไปตายรังแถวๆพารากอน หรือ Central World แต่ก็เบื่อนะ กินร้านเดิมๆ เดินเจอคนหน้าเดิมๆ ไม่อยากช้อปก็ต้องช้อป บางทีอยากไป chill chill ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการจับจ่าย แต่เดินหมุนไปหมุนมาก็ต้องซื้ออะไรสักอย่าง เข้า Boots ก็ได้มาหน่อย แวะซุปเปอร์ก็ได้มาอีกนิด

ไม่นานมานี้มีไอเดียใหม่ คือไปที่เดิมๆ แต่ทำสิ่งใหม่ๆ เช่นเดินพารากอนในมุมที่ไม่เคยเดินมาก่อน มันต้องมีสิน่า ชั้นที่ไม่เคยเดิน แผนกที่ไม่สนใจ เดินเข้าไปดู เปิดโลกทัศน์ใหม่ เออ ปรากฏว่า สนุกดีค่ะ ไม่เสียตังค์ด้วยเพราะสินค้ามิใช่ target เช่น วันก่อนเราไปเดินโซนซ้ายของห้างพารากอน เรียกไม่ถูกว่าโซนอะไร แต่แถบที่เป็นธนาคารกสิกรไทย ไปยันร้าน Tony Roma แล้วเดินโซนนี้ขึ้นๆไปเรื่อยๆ ไปถูกใจที่ชั้น 3 จำได้ว่าเรียกบริเวณ The Cocoon เป็นร้านกาแฟ อาหารง่ายๆ ร้านสวยสดหมดเลย ที่นั่งน่าสบาย ดูชิลๆ ร้านรวงแถบนั้นขายเฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นอาหารตาที่ดีพอๆกับรสชาติเครือ่งดื่มที่สอยมา เราชอบที่สุดคือ ร้าน Chaho ขายชาเขียวแท้แบบต่างๆ (ที่มีอีกสาขาที่เซ็นทรัลเวิร์ล) และแม้แต่เครื่องดื่มคู่ใจตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ชานม Mr.Shake ก็มาเปิดช้อปค่ะ แถมด้วยสินค้าไลน์ใหม่คือ Ice Glace น้ำแข็งใสทรงเครื่อง

ที่ Central World เราก้แวะไปใช้บริการ TK Park ใช้ได้เลยค่ะ ดูแออัดไปนิด แต่ไม่ว่ากัน ดีใจแทน ที่วัยรุ่นมาอ่านหนังสือกันมาก อยากให้เด็กๆมีนิสัยรักการอ่าน เพราะได้ความรู้และเป็นการฝึกสมาธิไปด้วยในตัว ค่าเข้าต่อครั้ง 20 บาทเอง แต่ต้องจ่ายค่ามัดจำบัตรผ่าน 50 บาท ซึ่งจะได้คืนตอนออก ถ้าจะสมัครสมาชิก ก็จะสามารถยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้ด้วย แต่ค่าสมาชิกเอาการอยุ่นะ รู้สึกว่าจะ 350 บาท แต่ถ้ามาบ่อย ยืมแยะ ก็คุ้มค่ะ ที่เก๋ที่สุด คือ ห้องสมุดดนตรี มีเครื่องดนตรีให้มาเล่น มีเครือ่ง ipod ให้มาฟังเพลง มีเครื่องคอมที่ให้ search หาเพลงฟังได้ทุกรูปแบบ รู้สึกว่า จะมีห้องให้จองเพื่อทำ workshop หรือ สัมมนากลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่เผื่อใครมีไอเดียดีๆมาเผยแพร่ สถานที่แบบนี้ น่าสนับสนุนมากๆค่ะ

เพื่อนๆลองดูสิ แก้เบื่อง่ายๆโดยการเปลี่ยนแปลงมุมมองนิดหน่อย ไปสถานที่เดิมๆในเวลาใหม่ๆ ทำกิจกรรมเดิมๆในสถานที่ใหม่ๆ หรือ ไปสถานที่เดิมแต่ทำกิจกรรมใหม่ หาดูสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยสนใจ เปิดกรอบของตัวเองออกค่ะ แล้วจะสนุกขึ้นเยอะ คุณอาจเจออะไรดีๆก็ได้นะ

แล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะ

ช็อปปิ้งที่ย่าน Union Square ใน NYC


คนไปเที่ยวนิวยอร์กส่วนใหญ่จะมุ่งไปช้อปปิ้งที่ถนนหมายเลขห้า หรือ the 5th Avenue และย่านใกล้เคียง เพราะเป็น tourist attraction ใครๆก็ต้องไปที่นั่น เราเองก็ไปๆๆๆๆ แต่ก็ซื้ออะไรไม่ได้นะ ไม่ใช่เพราะของเค้าไม่สวย แต่เพราะของแต่ละชิ้น แต่ละแบรนด์แถวนั้น ราคาแพงระยิบ แทบหยิบไม่ได้ เราอ่ะนะรสนิยมไปถึงแล้ว แต่รายได้ออกจะต่ำไปสักนิด อาการปกติที่ทำได้ คือ เดินน้ำลายหกไปมาจนขาอ่อน แต่เมื่อไม่นานนี้ได้ไปรู้จักกับย่าน Union Square เหมือนสวรรค์เลยค่ะ เพราะทุกร้าน ทุกแบรนด์ราคาซื้อได้ แถมยังมีพวก discount store หลายแห่ง เช่น คลังรองเท้าลดราคา DSW, ร้านของแบรนด์ราคาประหยัดแบบ Finale's Basement, เสื้อผ้าวัยรุ่นแนว streetware ก็มีให้เลือกมาก ช่วงสุดสัปดาห์บางทีมีคนมาออกร้านแบบตลาดนัดอีกด้วย สนุกดีค่ะ ก่อนกลับโรงแรม ยังแวะซื้อของทานที่ซุปเปอร์ออร์แกนิค อย่าง Wholefood ได้เลยทันทีก่อนลงรถใต้ดิน ไปครั้งหน้า แวะไปย่านนี้บ้างนะ ช้อปได้แบบสบายกระเป๋าค่ะ

Dancing Prawns กุ้งเต้นนนนนนนนน จ. ปทุมธานี


ภัตตาคารอึ้ง จั้ว กี่

ร้านนี้เราทานมานาน และร้านก็เปิดมานานกว่า 30 ปี เวลามาเราก็จะสั่งรายการอาหารเดิมๆ ที่ขาดไม่ได้คือ กุ้งเต้น ที่มาแบบไม่เหมือนคาด เรียกว่าเกินคาดก็ไม่ผิดนะ กุ้งเผากึ่งสุกกึ่งดิบถูกผ่าออกเป็นสองซีก แล้วราดด้วยน้ำยำรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยวจี๊ดสะใจ เมนูต่อมาคือ ข้าวผัดหม่อม จำชื่อไม่ค่อยได้ แต่ที่แน่ๆ มันเป็นข้าวผัดก้ามปู อร่อยสุดๆเลย ไม่เคยเห็นเมนูนี้ที่ไหนมาก่อน เผ็ดนิดๆ พอแก้เลี่ยน สั่งมาทานจานนึงแล้ว ยังต้องซื้อห่อกลับบ้านอีกอยู่เรื่อย อีกจานคือ ทอดมันกุ้ง ดูแล้วน่าจะเป็นกุ้งล้วนๆ ไม่ใช่ประเภทกุ้งครึ่ง แป้งครึ่ง มันหมูครึ่งแบบร้านสมัยใหม่ ทอดมันไม่ได้คลุกเกล็ดขนมปังจึงไม่ได้กรอบกร้วบ แต่ก็อร่อยได้ใจ ได้เนื้อกุ้ง รสชาติแบบแม่ทำให้ทานตอนเด็กๆค่ะ ส่วนเมนูโปรดของแฟนเรา คือ เชิงปลากรายทอดกรอบ มาทีไรเขาก็สั่งทุกที เราชอบแอบทานแต่ส่วนของแป้งที่ทอดมาฟูๆ ร้านนี้ตั้งอยู่ในใจกลางตลาดปทุมเลย หาไม่ยากหรอก ถามใครๆแถวนั้นเขาก็รู้ ถ้าลงสะพานนวลฉวี แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ขับมาจนสุดถนน มันจะบังคับเลี้ยว แล้วคุณก็จะมาถึงตลาด ที่มีรถบัสจอดเรียงราย ร้านนี้อยู่แถวๆนั้นแหละค่ะ

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทานทงคัตสึ กรอบอร่อย ประชดคลอเรสเตอรอล @_@


นานๆก็ไปทานทีที่ร้าน ซาโบเต็น ชั้น 6 ห้างอิเซตัน เมนูซาโบเต็นเซ็ทพิเศษที่รวม สันนอก สันใน กุ้งใหญ่ และ โครเกะครีมปู อร่อยล้ำมาก ร้านนี้ให้คุณแถมข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม หอมกรุ่น มิโซะซุป กับ กะหล่ำปลีฝอย ได้ไม่อั้น ที่ทานกับ dressing สองรสชาติ ที่เราโปรดสุดคือ ที่เป็นสีขาวๆครีมๆ คาดว่า น้ำสลัดงาขาว ปิดท้ายด้วย ไอศกรีมชาเขียวที่แถมฟรีมากับชุด น้ำจิ้มทงคัตสึให้เติมได้เรื่อยๆ ผสมกับงาขาวดำที่ให้เรามาบดเองตามความชอบ ไม่ควรพลาดไปลองนะคะ

ว่าด้วยเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือ


หนึ่งในอาหารในดวงใจเราคือ ก๋วยเตี๋ยวเรือค่ะ วันนี้ขอมาจัดลำดับ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือในดวงใจ เท่าที่พอนึกได้นะคะ 1. ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา "ลุง" ตรงข้ามหอประชุมกองทัพเรือ ร้านนี้ราคาประมาณ 12 บาท เราทานมาตั้งแต่ชามละ 5 บาท ประมาณ 15 ปีมาแล้ว อิอิ (อาย เดี๋ยวทุกคนรู้อายุ) อร่อยระดับ 4 ดาว

2. ร้านอ๊อด ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ให้5 ดาวครึ่งเลย แต่ต้องบินไปทานไกลถึง Thai Town บนถนน Hollywood Boulevard, LA ค่ะ มีชามเล็ก ชามใหญ่ สนน ราคา $3.50/$6.00 แต่อร่อยมากกกกกกกก น้ำตาเล็ด 3. ร้านบนเกาะเกร็ด ข้ามฟากมาจากวัดสนามเหนือแล้วเลี้ยวซ้าย ร้านแรกตรงข้ามโรงเรียนค่ะ 4. สุดท้าย ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ทรงเสวย จ. ปทุมธานี ถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสะพานนวลฉวี เลี้ยวขวาเข้าทางร้านกุ้งเต้น ถนนสายนั้นมีก๋วยเตี๋ยวเรือหลายร้านนะ (เส้นทางคมนาคมในจ. ปทุมตอนนี้สะดวกสบายมาก มีถนนตัดใหม่หลายสายยังกะเส้นก๋วยเตี๋ยว) เราเลือกร้านนี้ เพราะเห็นว่า สมเด็จพระเทพฯทรงเคยมาเสวย อร่อยดีค่ะ น้ำแกงออกเปรี้ยวนิดๆ เราก็ไปทานบ่อยเหมือนกัน

ร้านสเต็กบนเกาะเกร็ด

เคยไปเที่ยวเกาะเกร็ด เห็นร้านกาแฟเปิดเพลงแจ๊ส จำไม่ได้ว่าชื่อร้านอะไร แต่รู้ว่าบ้านเลขที่ 1 เกาะเกร็ด กาแฟอร่อย ราคาราวๆ 15-30 บาท เราสั่งกาแฟเย็นลาเต้ กับ น้ำแดงมะนาว อร่อยดี ไม่หวาน ไม่เปรี้ยวเกินไป นั่งไปนั่งมาทนกลิ่นหอมยั่วใจของเมนูสเต็กไม่ไหวเลยลองสั่งมาทาน ปรากฏว่า อร่อยเหาะใช้ได้ รสชาติเข้ม เนื้อนุ่ม สมราคา ประมาณ 60 บาทค่ะ เจอของดีต้องบอกต่อ บรรยากาศดี แบบบ้านๆค่ะ เหมือนนั่งทานที่สวนหน้าบ้านตัวเอง ด้านข้างเป็นที่นั่งพิเศษที่นั่งห้อยแกว่งขาไปมาได้ริมคลอง แต่น้ำในคลอดเหือดและเน่านิดๆอ่ะ แต่พอรับได้ค่ะ ปล. ไม่มีรูปนะคะ วันนั้นไม่ได้ติดกล้องไป แต่ถ้าข้ามเรือข้ามฟากจากวัดสนามเหนือไปแล้ว เดินไปทางซ้าย พอลงสะพานก็จะเจอร้านแรกเลย คุณคงจะได้ยินเสียงเพลงแจ๊สแว่วมาแต่ไกลแล้วหล่ะ

ซุปเปอร์มาร์เก็ตอาหารในดวงใจ Trader Joe's


ชอบมาช้อปอาหารที่นี่ค่ะ ของอร่อย แถมเป็น organic ซะส่วนใหญ่ ราคาก็ปานกลาง แต่ไม่ค่อยมีพวกของใช้นะ คิดว่าหาได้ทั่วๆอเมริกาเลย ของโปรดสุด คือ pasta sauce, เส้น pasta ราคาไม่ถึงเหรียญ, ผักสด ผลไม้, ไก่งวง, rice pudding, ของหวาน ของคาวประเภท frozen ก็คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล

โฟมล้างหน้าตัวใหม่ที่ใช้อยู่


เพิ่งซื้อตัวนี้มาได้ไม่นาน ตอนแรกใช้ก็เฉยๆนะ แอบผิดหวัง คือว่าผิวไม่ลื่นแถมยังตึงๆด้วย แต่พอใช้ได้สักพักดูหน้ากระจ่างใสขึ้น ล้างออกก็ง่ายด้วยค่ะ พิจารณากันเอาเอง แต่ถามว่าจะซื้อใช้ต่ออีกไหม คำตอบคือไม่แน่นะ ยังไม่กล้าฟันธง ผลิตภัณฑ์ line นี้ อยากลองใช้ serum กับ mask มากกว่า

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เคยแวะไปปอยเปตกันหรือยัง


ปอยเปต นี่เป็นเมืองหน้าด่านชายแดนเขมรที่ติดกับอำเภออรัญประเทศของจังหวัดสระแก้ว เมืองนี้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะเป็นเมืองคาสิโน ดูเผินๆเหมือนลาสเวกัส ที่แบบโทรมๆ ร้อนๆ หน่อยๆ แต่ราคาผิดกันมาก เครื่องเล่นก็มีทุกประเภทเหมือนกัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย แต่พนักงานเป็นคนเขมรที่พูดภาษาไทยได้ปร๋อ ตามโรงแรมก็เปิดทีวีดูละครไทยกันค่ะ ถึงจะสู้เวกัสไม่ค่อยได้ แต่ก็ดีมากๆ เขมรทำได้ ทำไมไทยจะทำไม่ได้นะเนี่ย เงินทองจะได้ไหลมาจากฝั่งเขามาฝั่งเราบ้าง นักเล่นเขาให้ชื่อปอยเปตว่าเป็นสวรรค์ของนักเล่นในแถบนี้ เพราะคุณจะทำอะไรก็ได้ จะเล่นไปกินไป เอาอาหารมากินขณะเล่น ที่ไหนจะทำได้แบบนี้อีกคะ เรียกได้ว่า เล่นกันจนหมดตัว ยังไม่ได้ลุกไปไหนเลย ถามหาน้ำ น้ำก็มาเสิร์ฟถึงปาก กระเป๋าแบน แต่อิ่มท้อง กลับบ้านกันไปแบบงงๆ โถ การพนัน ยังทำให้คุณงงได้อีกคะ
แต่ละโรงแรมก็มี buffet เหมือนกันและราคาต่อหัวแสนถูก เราไปทานบุฟเฟ่ท์อาหารญี่ปุ่น แบบงงๆแต่อร่อยเหาะ ที่โรงแรม Holiday Palace มั้ง เป็นญี่ปุ่น ปน เกาหลี ปนไทย ปนทุกชาติในโลก

แหล่งช็อปปิ้งใกล้เคียงคือ ตลาดโรงเกลือฝั่งประเทศไทย ขายสินค้ามือสอง ใครๆเขาไปได้ของมามากมายคึกคัก เราไปมาแปดเก้าเที่ยวเดินจนตัวดำ กลับไม่ค่อยได้ไรเลย ใครๆเขาว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อป ที่ราคาถูกแสนถูก เหมือนมางมเข็มในมหาสมุทร หลายคนก็เจอเพชรน้ำงาม สินค้าดี ราคาเหมือนได้เปล่าติดมือกลับไปค่ะ แต่เราไม่มีพรสวรรค์ในการเลือก เลยไม่ค่อยได้อะไร แต่เดี๋ยวนี้เขามีรถกอล์ฟบริการให้เช่า ให้คุณทุ่นแรงขา สะสมไว้ไปครุ้ยซิ่งสินค้าค่ะ

นานๆ อาหารจีนที


ไม่ค่อยจะโปรดเมนูจีนๆ (ไม่เหมือนเพื่อนฝูงบางคน แอบ แซวคนที่ชอบทานต้ม ตุ๋น ต้ม ตุ๋น) แต่ถ้าได้ไปทาน ก็ไม่ยอมพลาดที่จะสั่ง กุ้งทอดครีมสลัด บางร้านก็ใช้ชื่ออื่นนะ แล้วก็เป็ดปักกิ่ง เนื้อเป็ดต้องมาทำเมี่ยงเท่านั้น เอ แต่แฟนบอก เอามาทอดพริกเกลือก็อร่อยนะ

ร้านน้ำหวานที่ Isetan


หลังจากมื้ออาหารหนักๆ ถ้าอยากหาที่เงียบๆ ทานอะไรเย็นๆ เบาๆ แวะมาที่ชั้น5 หน้าซุปเปอร์อิเซตันสิ มีร้านน้ำหวานสไตล์ญี่ปุ่น กับเมนูจิ้มลิ้ม เช่น ถั่วแดงเย็น ชาเขียว กาแฟ อะไรเทือกนี้ ดูพื้นๆนะ แต่อร่อยชะมัดเลย สนนราคาก็ไม่แพงเลยนะ บรรยากาศก็เงียบดีด้วย แต่จำชื่อร้านไม่ได้อ่ะค่ะ ในรูปนี่น้องชายนะคะ ชื่อ แมงมุม

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"Lombard" the crookedest street in SF

คยอยากไปมาก อุตส่าห์ดั้นด้นเดินขึ้นเนินไปสามควายเหนื่อย สวยดีนะ แต่มีแค่เนี้ย

ยังคงพาชม San Fran อยู่นะคะ

ทานอาหารเช้าที่ร้าน Sear's สุดยอด




ร้านนี้ขายอาหารเช้าอยู่ใกล้ย่าน Union Square ใน san Francisco เมนูสุดยอด คือ แพนเค้ก ออมเล็ต กะ Egg Benedict


บทนำ

เคยเกิดอาการเหล่านี้กับคุณบ้างไหม เกลียดวันวาเลนไทน์ ไม่ชอบเห็นหนุ่มสาวเดินจูงมือกันตามห้าง เวลาเห็นเพื่อนสาวควงมากับหนุ่มหล่อ พ่อรวย เรามักแอบหวังว่า พ่อหนุ่มคนนั้นต้องมีข้อเสียอะไรบ้าง หรือ เขาจะรู้ไหมนะ ว่าเพื่อนเราน่ะ มัน…. สู้เราไม่ได้สักนิด ถ้าคุณมี อาการ ตรงกับ ข้างต้นครบทุกข้อ เรื่องนี้ไม่เหมาะกับคุณหรอก เราขอแอบแนะนำอย่างสุภาพและหวังดีว่า หนังสือธรรมะ หรือ แนวทางจิตวิทยา อาจจะ เหมาะ กับคุณมากกว่า เพราะเรื่องนี้เหมาะกับสาวโสดที่มีจิตใจงดงามอย่างเราๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงจะเป็นสาวโสด ไม่มีแฟน แต่เราไม่จำเป็นต้องมีหัวใจที่หม่นหมอง บางครั้งเราอาจเบื่อวันวาเลนไทน์ และแอบนึกสะท้อนใจเวลาเห็นหนุ่มสาวเดินพรอดรักกันตามห้าง แต่มันก็แค่รู้สึกจี๊ดๆคันๆตามธรรมดามนุษย์ แต่ไอ้ที่จะให้เราไปนั่งแช่งชักหักกระดูกใคร หรือโดยเฉพาะยิ่งเพื่อนรักแล้ว การหักเหลี่ยมโหดย่อมไม่เกิดขึ้นเป็นแน่ เพราะชีวิตคน ไม่ใช่ละคร ไม่ใช่การ์ตูน ที่ตัวละครร้ายสุดๆจะมากลับใจเป็นคนดีที่โลกยอมรับในภายหลังได้ในชั่วเวลาสองชั่วยาม หรือเพื่อนที่เราฆ่าไปแล้ว จะฟื้นคืนชีพได้ ด้วยน้ำอมฤตวิเศษ เพราะฉะนั้น ทำอะไร เราต้องคิดให้มาก

แล้วทำไม้ทำไม คนดีๆอย่างเรา ถึงยังโสดสนิทได้มาจนทุกวันนี้ พระเจ้า ทำไม ท่านไม่เข้าข้างเดี๊ยนเลย ผู้หญิงร้ายๆหลายคน (ไม่ได้เจาะจงว่าใคร) ทำไมถึงมีผัวกันไปครีกโครม พวกหญิงดีดี เราก็สรรเสริญด้วยที่คุณได้มีคู่สมบูรณืแบบ แต่เดี๊ยนล่ะ วีรสตรีที่โลกลืมหรือไง ทำงานก็เก่ง ไม่จู้จี้ ขี้บ่น รายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ หน้าตาก็อยู่ในข่ายดี ชาติตระกูลการศึกษา ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ทำไมเพชรอย่างเรา ถึงไม่มีผู้ใดมาขุดพบ ชาวบ้านร้านตลาด เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้อง ต่างพากันสรรเสริญถึงความน่ารักน่าฟัดของเรา แต่มิใย เรายังโสด โสดมาจนถึงสามสิบ

อ้อ พูดไปแล้วอาจจะงงกับคำว่าโสด เพราะพวกเราบางคน ก็ไม่เหมาะกับคำว่า โสด ซะทีเดียว เพราะพวกเธอมีหนุ่มๆทั้งน้อยใหญ่ มาคอยวนเวียนแจกขนมจีบล้านปีอยู่เสมอ ตามสำนวนไทยที่ว่า หมาหยอกไก่ บางรายก็หยอกกันมานานนม จนเพื่อนทั้งก๊วนวิวาห์มีลูกกันไปแล้ว คู่เราก็ยังหยอกกันไม่เลิก อีหลอบนี้ ก็ไม่รู้จะโทษใคร บางพวกก็ไม่ได้มีแค่กิ๊ก มีแฟนเลยค่ะคุณ คบกันจริงจัง ญาติผู้ใหญ่รู้จักมักจี่ เพื่อนฝูงยอมรับ รูปสมบัติ ชาติสมบัติ การศึกษา เหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยก แต่ฝ่ายชายก็ยังไม่เคยเอ่ยปากขอวิวาห์ งานนี้ ก็ไม่รู้แบบไหนจะเก๊กซิมกว่ากัน

สุภาษิตโบราณที่ว่ามาแต่ช้านาน ‘ช้าๆได้พร้าเล่มงาม’ เราก็เชื่อมั่นมาแรมปี แต่พอผ่านร้อน ผ่านหนาว (หมายถึง ฤดู) มานานเข้า เอ ที่เห็นมา มีแต่พวก ‘พบไม้งามเมื่อยามขวามบิ่น’ กันทั้งนั้น ชายหนุ่มที่เหมาะสมเดินมาเข้าทางเรา เราก็ต้องชะตาเขา เขาก็ปิ๊งเราสุดๆ แต่…ดันมีเมียแล้ว ขวานมันบิ่นแบบนี้ เราก็ไม่เอา พวกนี้ชอบทำให้เราต้องครวญเพลงของกบ ทรงสิทธิ์ว่า น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร… ปาฏิหารย์ไม่มีจริง

พวกเราบางคน ความโสดเกิดจากตนเองและ/หรือครอบครัว เลือกมาก ตั้งสเป็คไว้สูง ป๊าม๊าบอกว่าไม่ต้องรีบอาหมวย อั๊วเลี้ยงลื้อได้ คนจะมาชอบลื้อ ถ้าเลี้ยงไม่ได้ดีเท่าอั๊วกะม๊า ลื้ออย่าไปสน เฮ้อ ก็เชื่อมาแบบนี้อยู่ตั้งนาน จากความเชื่อ กลายเป็นความจริง ว่าในโลกนี้ไม่มีใครเลี้ยงเรา รักเราเท่าป๊าม๊า แล้วจะทำไงดีหล่ะทีนี้ เพราะพอสามสิบ ป๊ากะม๊าแกก็เริ่มออกอาการกังวล แต่แกไม่แสดงออกเพราะไม่อยากกลับคำเสีย เดี๋ยวลูกอีจะว่าเอาได้ ก็แสดงออกมาในรูปแบบเทรดดิชั่นแนล คือ พาลูกเพื่อนมาเจอกัน กินโต๊ะแชร์ก็หนีบเราไปด้วย พยายามจะหาคู่ให้เราก็ว่าได้ บางพ่อแม่ก็ไปดูดวง ผูกดวง พวกเราบางคนก็เปลี่ยนชื่อ ดิฉันก็ด้วยคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่เปลี่ยนชื่อเรียกสะมีนะคะ เปลี่ยนเพื่อการงาน เพื่อชีวิตโดยรวมๆค่ะ ไม่เชื่อเหรอ โอเค โอเค เรื่องคู่ด้วยก็ได้ นิดนึง

ว่าถึงเรื่องหมอดู อยากรู้ว่าคนโสดอยากดูดวงหาเนื้อคู่เกิด กับเหล่าบรรดาเมียหลวงแอบดูว่าสามีจะมีเมียน้อยไหม กลุ่มไหนมีจำนวนสูงกว่า ดิฉันว่า เราน่าจะลองทำสถิติดู ถ้าบรรดาท่านหมอดูทั้งหลายให้ความร่วมมือนะ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะตามจรรยาบรรณแพทย์แล้ว จะไม่เปิดเผยอาการของคนไข้ หมอดู เป็นหมอ ประเภทหนึ่ง ก็คงยึดหลักการเดียวกัน แต่ที่แน่ๆก็คือ เชื่อว่า คำถามที่ว่า คุณหมอคะ หนูจะเป็นเนื้อคู่เมื่อไหร่ เนื้อคู่หนูจะเป็นใคร แล้วหนูมีดวงได้แต่งงานไหม สามคำถามนี้ คงติด top ten คำถามยอดฮิตของทุกค่ายหมอดู

ที่สุดของที่สุดแล้ว เราก็คงต้องพึ่งเพื่อนนี่แหละ เห็นเขาว่าสำเร็จมาหลายคู่แล้ว ไม่เชื่อ อย่าลบลู่ บรรดาสาวสวยหนุ่มหล่อคู่ฟ้าเมืองไทยที่ลงเอยกัน เห็นพอถูกคนสัมภาษณ์ถามว่า เจอกันได้ยังไงคะ คำตอบยอดฮิต ก็คือ ‘อ้อ เพื่อนแนะนำค่ะ’ ‘อืม ลิลลี่เป็นเพื่อนของน้องสาวครับ’ ‘เราเจอกันในงานแต่งงานเพื่อนสนิทค่ะ’ ถ้อยความเหล่านี้เราได้ฟังกันมาจนเกือบจะเชื่อว่า เพื่อนนี่แหละ จะพาเราไปเจอเนื้อคู่ เราก็ลงทุนบรรจงแต่งตัวซะ เวลาไปงานเลี้ยงกับเพื่อน งานแต่งเพื่อน โอย แต่ทำไมไม่บังเกิดผลกับเรานะ คิดดูสิ รอบตัวคุณเอาเข้าจริงๆ มีถึงสิบคู่ไหม ที่ได้แต่งงานกับเพื่อนของเพื่อนที่เจอที่งานแต่งงานของเพื่อน เอ้อ พูดเอง ยังงงเองเลย ไอ้ประเภทเพื่อนนัดบอดให้ ก็ทำกันมาแทบจะทุกยุคทุกสมัย แต่วิธีนี้กับเรามันไม่ได้ผลอ่ะ มันไม่คลิ๊ก

ถ้าประเด็นเหล่านี้ ไม่ใช่ แล้วทำไม เราถึงไม่ได้แต่งงานซะที นี่ก็สามสิบแล้วนะ ไม่ได้เดือดร้อน แต่สงสัย อยากรู้ อย่าเข้าใจผิด ดิฉันไม่ได้เดือดร้อนจริงๆ อยู่คนเดียวก็ได้ สบายดีไปอีกแบบ แต่ก็สงสัยอ่ะ เราไม่ดีตรงไหน หรือว่าเราดีเกินไป เอ แล้วทำไมเพื่อนเรามันได้แต่งกันไปเกือบหมดกลุ่มแล้ว เป็นคำถามที่อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม…

หวังว่าบทความนี้ แม้จะช่วยให้คุณเจอเนื้อคู่ หรือได้แต่งงานไม่ได้ในเร็ววัน เพระาดิฉันก็ไม่ได้มีพรวิเศษ และถ้ามีก็คงใช้กับตัวเองก่อน แต่หวังว่า มันจะเป็นเพื่อนคุณได้ ขอแอบบอกว่า ยุคสมัยแบบนี้ พวกเราโชคดีขึ้นมาก เศรษฐกิจไม่ค่อยดี การเมืองก็ยุ่งๆ ที่เราไม่ได้แต่งงาน ก็โทษเศรษฐกิจ การเมืองกันไปหล่ะ ไม่รู้เกี่ยวกันตรงไหน แต่ก็โทษๆไปเถอะ คนฟังเค้าเข้าเอง แต่ก็หวังว่า ไม่คุณก็ชั้น เราคงได้บทสรุปที่ลงตัวกับชีวิตในไม่ช้าค่ะ

ขอโพสเรื่องสั้นที่เขียนเองบ้างนะ

"ทำไงดี สามสิบแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน"

ลองอ่านกันดูนะ เรื่องนี้เขียนเมื่อปีที่แล้ว

แต่ปีนี้เรากำลังจะแต่งงานแล้วจ้า :> อิอิ ได้ผลชะมัด

หรือใครชอบอาหารญี่ปุ่น


เราก็ชอบนะ มักจะเลือกทานเป็นอันดับต้นๆ ถ้าออกนอกบ้านนะ

ชอบทาน barbecue กันไหม


อ้อ นี่เพื่อนซี้เราคนหนึ่งมาจากชิลี

นี่ห้องธรรมดาค่ะ The Evason Room


แนะนำที่เที่ยวในเมืองไทยบ้าง The Evason Pool Villa


รีสอร์ทสุดโปรดของเราคือ The Evason Hua Hin ชอบที่สุดคือห้องพักแบบ Pool Villa เพราะมีสระว่ายน้ำในตัวเลย เน้นว่า สระว่ายน้ำนะ ไม่ใช่แค่อ่าง jacussi ราคาก็ประมาณ 7พันมั้ง แล้วแต่ช่วง แต่ถ้าช่วงประหยัดหน่อยพักห้องธรรมดาแบบ The Evason Room ราคาประมาณ 3,500 บาท ก็สบาย หรู พอใช้ได้แล้วนะ เรื่องความเป็นส่วนตัวที่นี่ยกนิ้วให้นะ line อาหารเช้าก็มีให้เลือกเยอะดี คิดว่า เป็นรีสอร์ทที่คุ้มราคาที่จ่ายไปนะคะ ปล. นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ

Yogurtland เมื่อไหร่จะเข้าเมืองไทย


เราชอบทานไอศกรีมโยเกิร์ตร้านนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นแบบ self-service นะ มีตู้ให้กดไอติมประมาณ 20 รส เราก็หยิบถ้วยแล้วเดินไปกด จะผสมกันกี่รสก็ได้ แล้วมาตัก topping เอง กี่ชนิดก็ได้ แถมใช้ของดีด้วยเช่น chocolate ของ Ghirardelli พอคิดราคาก็เอาถ้วยไปชั่งน้ำหนัก จ่ายตามน้ำหนักค่า

ขอตั้งชื่อว่า Academic Cakes ค่ะ




ไปติดอกติดใจที่ร้านเค้กชื่อ Satura ร้านดังแห่งเมือง Palo Alto เค้าล่ะ ร้านน่ารักดูดีมากๆ เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปทำความรู้จักและคว้าอะไรมาหม่ำสักชิ้นสองชิ้น แต่ความเห็นเราตรงๆเลยนะ รสชาติอร่อยระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับว่าจะเป็นที่สุดของที่สุด แต่บรรยากาศกิ๊บเก๋ได้ใจเลยค่ะ แบบว่าติดจะไฮโซนิดๆ วิชาการหน่อยๆ คนมานั่งส่วนใหญ่ก็นักศึกษาจากรั้ว Stanford ได้ยินเขาก็คุยกันเรื่องวิชาการบ้าง อะไรบ้าง สับเพเหระ แค่ได้มานั่งก็รู้สึก academic academic แล้วล่ะ ใครผ่านมาแถวเส้น 101 มุ่งหน้า San Fran ก็แวะมาหน่อยสิ highly recommend ค่ะ

ที่ไหนเอ่ย รู้ไหม


Stanford University, Palo Alto
อ้อ เราไม่ได้เรียนที่นี่หรอก อยากเข้านะ แต่เขาไม่รับ แต่ไม่เศร้านะ มาแวะเที่ยวก็ได้ เมืองน่ารักดี

Eating the Dungeons Crab at Pier 39, San Francisco


เจ้าปูเพชรฆาตตัวนี้มีเนื้อทุกอณูของร่างกาย แม้แต่ปลายนิ้วก้อยก็ยังมีเนื้อหวานฉ่ำลิ้น ซอสเนยกระเทียมของร้าน Crab House นี้หอม เด็ด และรสชาติจัดจ้านมาก รับประกันว่าอิ่มแน่ๆ ตัวนี้สนน ราคาประมาณ $34 ดิฉันทานกับแม่สองคน ยังไม่หมดเลย

Coffee Shop บน State St. ซานตา บาร์บาร่า



ภาพที่เห็นคือเมืองซานตา บาร์บาร่า ตั้งอยู่ตอนกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย ห่างจากเมืองลอสแองเจลิสประมาณ 95 ไมล์ วิ่งรถประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เมืองชายหาดเล็กๆแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น The American Riviera มีความสวยงามไม่แพ้ชายหาดอื่นใดในรัฐแต่สงบ และปลอดภัยมากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีจากวิถีชีวิตที่วุ่นวายสับสนของเมืองใหญ่ และอยากผ่อนคลายกับชายหาด และภูเขาสวยๆ มีแหล่งช็อปปิ้งชิลชิลด้วยสินค้าแบรนด์เนมดังๆ และร้านกาแฟเก๋ๆ นั่งได้นานเท่านาน อาหารการกินก็อุดมสมบูรณืไม่แพ้เมืองใหญ่อื่นๆในรัฐนี้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นฝรั่งขาวและคนเม็กซิกัน นักเรียนเอเชียนิยมมาลงเรียนภาษาที่นี่เพราะหลักสูตรดี โรงเรียนสวย และปลอดภัย เช่นที่ Kaplan, EF และ Santa Barbara City College เมืองนี้มีมหาวิทยาลัยใหญ่ชื่อ University of California, Santa Barbara หรือ เรียกย่อๆว่า UCSB เป็นหนึ่งในสิบวิทยาเขตของ UC ซึ่งเป็นระบบมหาวิทยาลัยรัฐที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง มหาวิทยาลัยแห่งนี้โดดเด่นในด้าน Nanotechnology, Marine Engineering, Music, Movies, Teacher Training และ Linguistics

at sunset


Welcome to Santa Barbara