วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แต่งหน้าตัวเองทู้กวันด้วยสิ่งเหล่านี้


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ Pamchoice หายไปพักใหญ่เพราะคร่ำเคร่งกับการเรียน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี เสร็จ project ที่ทำมาตลอดทั้งเทอม เลยรู้สึกคันไม้คันมือและคันปาก อยากจะเล่าเรื่องเครื่องสำอางที่ตัวเองใช้ ที่เวิร์คบ้าง ไม่เวิร์คบ้าง ที่เคยเวิร์คสุดๆ แต่จู่ๆกับไม่เวิร์คซะงั้น มันเป็นวัฏจักรชีวิตน้อยๆของผู้หญิงจริงๆนะคะ พอเปลี่ยนฤดูผิวหน้าก็เปลี่ยนอารมณ์ ยิ่งคนที่ต้องเดินทางเปลี่ยน location จากเมืองร้อนไปเมืองหนาว จากเมืองแห้ง ไปเมืองชุ่มชื้นอย่างแพม โอย สงสารหนังหน้าที่ปรับตัวไม่ทัน กว่าจะใช้เวลายอมรับกับสภาพอากาศแห้ง เอาอีกแล้ว เจ้าของร่าง พาหน้ากลับไปหาอากาศชื้น แต่เพราะหัวใจมันเรียกร้องและหน้าที่มันร้องหาอ่ะนะคะ หน้าก็ต้องทนต่อไป...

เอาหล่ะ เข้าเรื่อง วันนี้อยากจะโชว์ข้าวของที่ใช้แต่งหน้าตัวเองประจำวัน ไม่ได้แสดงตนว่าเป็นกูรู หรือ สาวงามค้างสต๊อกแต่อย่างใด แต่ที่อาดหารเอาของดีมาโชว์ เพราะเชื่อว่ามีเพื่อนๆอารมณ์เดียวกันอยู่ไม่น้อย คือเพื่อนๆที่แต่งหน้าบางๆ ธรรมชาติ ให้คนพอรู้ว่าแต่ง แต่ไม่จัด เสริมส่วนนั้นนี้ ให้ใบหน้าดูมีสีสันและ sophisticate ขึ้นบ้างไรบ้าง ก็มาดูกัน ว่า Pamchoice ใช้อะไรบ้าง ของพวกนี้ใช้มานานมากกกกกกกกก จนคิดว่าเป็น regular products คือไม่ว่าช่วงไหนจะไปซื้อหาสิ่งอื่นใดมาเพิ่ม ของ set เหล่านี้จะอยู่กับเราตลอดกาล ถ้าพวกเธอไม่ถูกเลิกผลิตไปเสียก่อน

สิ่งแรก ขอพูดถึงผลิดภัณฑ์ที่เกี่ยวกับดวงตา แต่ก่อนไม่เคยคิดว่าการแต่งตานั้นสำคัญ แต่พอแก่ตัวลง ความสาวใสวัยเอาะหายไป น้ำใสๆหล่อเลี้ยงดวงตาเริ่มเหียดแห้ง ดิฉันก็ตระหนักว่า มาแต่งตากันบ้างไหม และสิ่งที่คู่กับดวงตาคู่สวย ก็คือ คิ้วคู่งาม แฟนเราบอกว่า ไม่ชอบคนกันคิ้ว กันทำไม ไม่ชอบคนเขียนคิ้ว เขียนทำไม ดิฉันต้องถามกลับว่า แล้ว เธอชอบคนสวยไหม เขาตอบ ชอบสิ ดิฉันก็เลยบอกว่า งั้นหยุดพูดเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็เพราะใครที่มีโครงคิ้วสวยได้รูป มันจะเสริมให้ใบหน้าดูสวย มีชัยไปกว่าครึ่งนะคะ คิ้วที่โก่งหน่อย (ไม่ต้องโก่งแบบนางเอกงิ้วนะคะ) และปลายหางไม่ตก คือสุดยอดปรารถนาทั้งทางความงามและโหงวเฮ้ง เพื่อนๆลองหัดกันคิ้วตัวเองดูค่ะ ใครที่มีคิ้วบางมากๆอยู่แล้ว น่าจะลองเขียนคิ้วดูบ้าง เราแนะนำให้ใช้ดินสอ และควรเลือกโทน brown มันจะดูธรรมชาติกว่า อยากหนักก็เขียนเยอะๆ อยากธรรมชาติก็เขียนน้อยๆ ดีกว่าเลือกใช้สีดำที่มันจะทำให้คิ้วคุณดำเหมือนสาวอเมริกาใต้ทั้งที่เรามีใบหน้าแบบเอเชีย

ต่อมาสิ่งที่ดิฉันขาดไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้เลยคือ ที่ดัดขนตาของ Shu Uemura ใช้มาเกินหกปี (ซื้อใหม่เปลี่ยนเรื่อยๆนะ ไม่ได้ใช้อันเดิม) สนนราคาประมาณ 650 บาท ถ้าซื้อที่สนามบิน Narita ที่เมืองไทยไม่ทราบแล้ว มันหนีบได้งอน นุ่มนวล พอดีรับกับโค้งตาสาวเอเชีย เคยลองของยี่ห้อถูกๆ มันไม่รับกับโค้งตานะคะ แบบเหล้กของถูก มักหนีบแล้วเจ็บ เรียกว่าดัดไปร้องไห้ไปอ่ะ กลัวด้วยว่าพอดึงที่หนีบออกมา ขนตาเราจะหลุดมาด้วยทั้งแผง ขำไม่ออกเลยนะนั่น แบบถูกพลาสติก มักจะหนีบแล้วไม่งอน ยิ่งเพื่อนที่ขนสั้นด้วยแล้ว มีโอกาสที่จะดัดแล้วไม่งอน ดัดแล้วขนตาหลุดได้อยู่นะคะ
สิ่งที่ 2 ที่ขาดไม่ได้เลยคือ Mascara ลองมาหมดทั้งของถูกของแพง ตั้งแต่ Chanel, Dior, Bobbi Brown ยันของราคาย่อมเยาแต่คร่ำหวอดในวงการมาสคาร่าอย่าง Maybelline แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกคือ ส่วนใหญ่มักได้อย่างเสียอย่าง เช่น ปัดแล้วติดทนทานดี แต่ล้างออกยากมาก บางอันใช้แล้วขนตาเป็นแผงเป็นเส้น แต่บางไป บางอันเข้มงอนได้ใจ อย่าง Estee Lauder 360 lash อะไรสักอย่างแต่เราว่ามันติดเป็นก้อนบนขนตา พวกที่คล้ายต่อขนตา ก็มักดูไม่ธรรมชาติ ไม่ใช่แนวของเรา และปัญหาหนักสุกคือ เปรอะเปื้อนใต้ตาในช่วงบ่ายๆที่มีน้ำมันบ้าง เหงื่อบ้าง ทำให้เรากลายเป็นหมีแพนด้าตัวแม่ แต่ในที่สุด พระเจ้าก็ดลใจให้ดิฉันได้มารู้จักกับ Mascara ของ Cover Girl รุ่น lastblastlength แท่งสีเหลือง สุดยอดแล้วในด้านความยาว ขนตาเรียงเส้นสวย ยาว ดำ ไม่จับตัวเป็นก้อน ติดทน ไม่เปรอะ ไม่เป็นแพนด้า และล้างออกง่ายด้วยน้ำอุ่นหรือ makeup remover ถ้าใครที่ขนตายาวอยู่แล้วและต้องการเพิ่มความหนา ของแนะนำรุ่น แท่งสีส้ม lastblastvolumn เพื่อนของเราบางคนชอบมาก ขาดไม่ได้ แนะนำใครไปก็ต้อง love บางคนก็คลั่งสีเหลือง บางคนก็คลั่งสีส้ม แต่ตอนนี้ Cover Girl ออกรุ่นใหม่มาเป็นแท่งสีม่วง แบบรวมทั้งหนาทั้งยาว แต่เรายังไม่ได้ลอง ไว้ลองแล้วดีหรือไม่อย่างไรจะมาบอกต่อค่ะ สนนราคา ประมาณ $8-9 เท่านั้นเอง

สิ่งสุดท้ายของดวงตาคือ Eye liner สีดำ เราใช้มาก็หลายแบบหลายยี่ห้ออยู่นะ ตอนอยู่เมืองไทยที่เขาฮิตกรีดตาจัดๆมีหาง เราก็ใช้ Etude แล้ว love มาก ใช้ติดต่อกันมา 3 แท่ง ติดแน่น ติดทน เส้นคม และล้างออกง่าย แต่ที่เลิกใช้เพราะมาอเมริกาแล้วเราไม่ค่อยได้แต่งหน้าโทนสีลูกกวาดแบบนั้นแล้ว ที่นี่เขาเน้นธรรมชาติ ชอบ earth tone เราก็เลยหัดลองใช้รุ่นดินสอ แต่มีข้อเสียคือ เส้นใหญ่ ไม่ติดทน และติดสอมักจะไม่เป็น waterproof เกิดอาการแพนด้าได้ง่ายมาก แล้วก็หันมาลองรุ่น gel เราเริ่มต้นที่ Bobbi Brown เลยนะ ราคาแพงแถมยังต้องลงทุนซื้อแปรงหัวเล็กมาใช้คู่กัน ตอนแรกเราก็ชอบนะ ใครๆที่ใช้เขาก็ชอบและเสพติด แล้วโฆษณาว่าไม่เลอะ แต่สำหรับเรา มันเลอะนะ พอช่วงบ่ายก็จะมีเปรอะๆใต้ตาบ้าง แล้วที่สำคัญคือ พกพายาก เพราะมีแปรงนี่แหละ แปรงหางยาว ยาวเกินกระเป๋าเครื่องสำอางใดๆที่เรามีอยู่ พกไปพกมา ขนแปรงที่เล็กน้อยอยู่แล้ว เกิดงอเพระาโดนกดทับ เลยใช้ไม่ได้เลย เพราะเคล้ดลับของเส้นที่คมชัด มันอยู่ที่ปลายขนแปรงที่คมกริบนี่แหละ สุดท้ายเรามาลงตัวที่ Sephora Retractable Waterproof Eyeliner เป็นเหมือน automatic pencil ที่เป็นเนื้อครีม ทาง่าย ไม่เปรอะ ล้างออกไม่ง่ายมาก แต่ไม่ยากเกินไป ด้วยความที่เป็นหัวเหมือนดินสอข้อเสียคือเส้นจะไม่คมกริบ แต่ก็สามารถเขียนไล้ไปตามโคนขนตาได้ คิดไปคิดมา เราก็ไม่กลัวแล้วเรื่องเขียนเส้นบางอะไร เพราะจะเขียนทั้งทีคนก็ต้องเห็นอะไรแตกต่างกันหน่อย ใช่ไหม เลือกรุ่นที่เขียนง่าย ไม่เลอะดีกว่า เพราะเราไม่ได้มีเวลาแต่งหน้าหนึ่งชั่วโมงตอนเช้าก่อนไปเรียนนี่น่า แท่งนี้นะ ถูกและเขียนง่าย หายก็ไม่กลัว ครบสูตรเลย

เคล้ดลับอีกอย่างที่จะบอกคือ เพื่อนๆอาจเลือกซื้อ eyeliner สีอื่นมาทาสลับกับสีดำเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการแต่งหน้าบ้างก็ได้ และ eyeliner สีอื่นนั้น เวลาเปื้อนจะไม่คอ่ยเห็นเท่าสีดำ เราแนะนำสีเขียวขี้ม้า เพราะให้เส้นสีเข้มทำให้ดวงตากลมโตขึ้นได้คล้ายสีดำ แต่พอเปื้อนก็จะไม่ค่อยเห็น และไม่เป็นแพนด้า แล้วถ้าเพื่อนๆถามว่างั้นเราเลือกใช้สีเขียวเข้มตลอดไปเลยได้ไหม ก็แล้วแต่นะ แต่ดิฉันไม่เอาเพราะยังไงเส้นตาสีดำมันก็เด่นสุด ตาโตสุด และเข้ากับการแต่งหน้าได้ทุกโทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น