วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แต่งหน้าตัวเองทู้กวันด้วยสิ่งเหล่านี้ ภาค 2

หลังจากแต่งตาแล้ว เราก็มาที่ผิวหน้า จริงๆแล้ว เราต้องทำผิวหน้าและลงแป้งก่อนนะคะ ค่อยแต่งตา แต่ดิฉันเขียนเรื่องของตาไปก่อน

เอางี้เพื่อไม่ให้สับสนกัน ดิฉันของสรุปขั้นตอนการแต่งหน้า (ของตนเอง) ดังนี้ ผิดถูกประการใดท่านกูรูโปรดชี้แนะ เริ่มด้วยล้างหน้าให้สะอาด เช็ดด้วย toner ตามสภาพผิว ตามด้วย serum แล้วแต่ที่มี ตามด้วย moisturizer ยี่ห้อที่ชอบ ลงครีมกันแดด ลง primer ลง foundation หรือ tinted moisturizer แล้วโปกแป้งทับเลย เป็นอันเสร็จพิธีการเตรียมหน้าเค้ก จากนั้นก็เป็นการแต่งหน้าเค้กใช่ไหมคะ ดิฉันเริ่มที่การทา eyeshadow (ถ้าวันนั้นคิดจะทา) แล้วค่อยดัดขนตา เขียน eyeliner แล้วค่อยปัด mascara เพราะไม่งั้น สีฝุ่นหรือครีมก็แล้วแต่ของ eyeshadow มันจะเปื้อนขนตา และทับเส้น eyeliner ที่เขียนไปแล้ว ทำตามขั้นตอนที่ดิฉันบอกแล้วจะไม่มีอะไรทับอะไร ไม่ต้องทาแล้วกลับไปเติม ยิ่ง eyeliner นะบางวันกรีดได้เส้นสวยเชียว ดันลืมทา eyeshadow พอทาแล้วสีดันมาทับเส้นสวยของเรา เซ็งไหมล่ะคะทีเนี้ย แล้วก็ต้องดัดขนตาก่อนทา eyeliner ด้วย เพราะบางทีการหนีบเราจะไปโดนโคนขนตาใช่ไหม แล้วเส้น liner ที่เราเขียนไว้มันยังไม่แห้งดี ก็เปื้อนกันไปอีก

ต่อด้วยการปัด brush on เราไม่แนะนำสีชมพู สำหรับคนวัยอย่างพวกเรา 25-35 ปี เพราะเราไม่เด็กพอที่จะแต่งหน้าแนวตุ๊กตาหรือ babydoll อีกแล้ว และก็ยังไม่มี sophisticated look แบบวัยสาวใหญ่พอที่จะแต่งหน้าเข้มขึ้น และเลือกใช้ brush on โทนสีชมพูเข้มที่ให้เนื้อสีล้ำลึก คนในวัยอย่างเราๆ ดิฉันขอแนะนำให้เลือกโทนอมส้ม เน้นว่า อมส้มนะคะ ไม่ใช้สีส้ม มันไม่เหมือนกัน เพราะโทนส้ม อาจจะเป็นชมพูอมส้ม ทองอมส้ม น้ำตาลอมส้ม ขึ้นอยู่กับ undertone สีผิวของแต่ละคน แต่สีส้มมันเป็นสีทื่อๆ ทาแล้วหน้าจะดูแข็งๆ ต่อให้ใช้สีส้มของเครื่องสำอางราคาแพง ก็จะทำให้การแต่งหน้าดูเป็น look cheap ไปได้ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆให้เลือกใช้สีโทนส้ม เช่น coral, nectar, peach หรืออะไรที่มีคำที่แสดงว่าสีมีอมส้ม ยิ่งถ้าได้ multi-shade ในตลับเดียวยิ่งดีใหญ่เลย เพราะสามารถเลือกปัดได้หลายรุปแบบและได้สีที่มีมิติ สีโทนส้มที่ดิฉันต้องมีไว้ติดบ้านคือ MAC สี pinch o' peach เจ้าตัวนี้ให้โทนสีส้มอ่อน ทายังไงก็ไม่พลาด ต้องทาเยอะๆด้วยซ้ำถึงจะออกสีแรง ดิฉันชอบโทนสีอ่อน เพราะถ้าต้องการสีเข้มก็ปัดเยอะๆได้ แต่ถ้าซื้อสีเข้มมา แล้วกะจะมาปัดเบาๆแล้วละก็ เจ๊งเลยค่ะ มันยากนะที่จะทำสีเข้มให้อ่อน ทำสีอ่อนให้เข้มขึ้น น่าจะเป็น task ที่ง่ายกว่า ดิฉันเคย in love แบบโงหัวไม่ขึ้นกับ brush on tri-tone สีอมส้มของ PN แต่มันก็เลิกผลิตไม่แล้วทั้งสี และเครื่องสำอางยี่ห้อนี้ก็หาซื้อไม่ได้แล้ว ทำไม๊ทำไมของที่เราชอบ มักเลิกผลิต เกิดอาการเซ็งจิตบ่อยๆนะคะ

brush on อีกสีที่ชอบ คือ Anna Sui เบอร์ 301 ที่ชอบสีนี้เพราะเป็นเหมือนปรัชญาทางเครื่องสำอางที่บอกเราว่าสีที่คุณเห็นด้วยตาเปล่า เวลาอยู่บนหน้าคุณแล้วมันจะเป็นคนละเรื่อง สีนี้ดูจากตลับออกแนวแดงเลย เข้มมากมาก ดูน่ากลัวสุดๆอ่ะค่ะ แต่พอปัดมาบนหน้าแล้ว สดใสมาก แจ่ม จรัส ใช้แล้วเกิดสุดเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่งตัวลุยๆ ต้องการแก้มแดงๆแบบตะลุยแดด หรือไม่ก็เวลาไปทะเลที่ไม่แต่งหน้าอะไรแบบ full option แต่ต้องการแก้มแดงสุขภาพดี สีนี้เลยขอบอก...

มาถึงลิปสติกกันบ้าง ต้องขอออกตัวว่าไม่ค่อยชอบทาลิปสติก ทาทีไรเหมือนปากเจ่อ ยิ่งสีชมพูนะ ยิ่งทาไม่ได้เลย เจ่อมาก ใครๆก็บอกว่าเราคิดไปเอง เราเป็นคนผิวขาวน่าจะใช้ลิปโทนชมพูดีที่สุด แต่สำคัญคือตัวเราไม่ชอบหน้าตัวเองเวลาแต่งสีนั้น แล้วเราจะทนแต่งไปเพราะคนอื่นบอกว่าดีไปทำไมกันคะ นอกจาก จะไม่ชอบแต่งปากโทนชมพูแบบไร้สาเหตุแล้ว ดิฉันก็ได้พยายามคิดหาเหตุผลมาประกอบด้วย ดิฉันสันนิษฐานว่า การที่เราเป็ฯคนผิวขาว แล้วมี undertone ของผิวอมชมพู แถมอ้วนด้วย ทำให้การแต่งหน้า หรือ ทาปากโทนชมพู สีที่ได้มันจะเข้มขึ้น เพราะเรามี pink undertone เป็นของตนเอง แถมเรายังอ้วน ทำให้แลดูน่ารักเกินไปเหมือนซาลาเปาไหว้เจ้าสีขาวมีจุดชมพูตรงกลาง Noooooooooooooooooow....

ดิฉันเลือกใช้ลิปสติกและลิปกลอสโทนสีส้ม และขอมีประกาย shimmer หน่อยๆเพื่อเพิ่มมิติให้ริมฝีปาก ทาสีโทนอมส้ม หรือ nude แล้วจะไม่ค่อยพลาด แต่อย่าเลือก nude แบบเสมอืนผิวนะคะ เพราะหน้าคุณจะออกมาเหมือนคนป่วยระยะสุดท้าย ฝรั่งเขาแต่งได้เพราะหน้าเขามีมิติ มีโหนกแก้ม มีจมูกโด่ง คางแหลม แต่งตา smoky eye ช่วย พร้อมเขียนขอบปาก สีผิวฝรั่งก็ขับ nude tone อีก แต่สีผิวเอเชียอย่างเรา ถ้าไม่ขาวซีด ก็น้ำผึ้งหรือเข้ม มันไม่ค่อยลับกับโทน nude มาแนะนำสีโปรดกันเลยดีกว่า

ลิปสติกลงพื้นฐานชอบ Clinique สี tender heart เป็นสีชมพูดอมน้ำตาล แต่ออกน้ำตาลมากกว่าชมพู ทาทับด้วย lip gloss ยี่ห้อเดียวกันสีโทนเดียวกันคือสี Glamour จะสวย ดูภูมิฐาน sophiticate

วันสดใส ดิฉันชอบใช้ Laura Mercier ลิปสติก สี pink dawn เป็นชมพูอมส้มค่ะ

วันเปรี้ยวๆ แบบไม่ตั้งใจ ใช้ Shu Uemura สี BG902 สีออกส้มประกายมุข ทาแล้วออกแนว metalic เป็นสาวเก๋ๆ และอาจจะทาทับด้วยลิปกลอส ของ Shiseido สีสุดโปรดที่หาซื้อยาก คือเบอร์ G7 คือ ชอบ gloss แท่งนี้มากๆ ขาดไม่ได้ ทาเดี่ยวก็สวยแบบใสๆ ไม่เวอร์ ทำให้ใบหน้าที่อิดโรยดูสดชื่นขึ้น ทาเดี่ยวๆทัังๆที่วันนั้นไม่ได้แต่งหน้าก็ยังได้ เพราะไม่ออกสีมาก เจ้าประคู้น ขอให้อย่าเลิกผลิตสีนี้เล้ย ลูกช้างขี้เกียจไปแสวงหาซื้อสีอื่น กว่าจะขุดเจอมันนานมาก

เอาหล่ะก่อนจบ ขอวนมาที่ อุปกรณ์เสริม ที่ตอนต้นได้เอ่ยถึงไปหน่อยคือ primer ที่ทาก่อน foundation และแป้ง ดิฉันขอ endorse ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เท่านั้น แนะนำให้ใครไปก็ไม่มีผิดหวัง ทำให้เครื่องสำอางทุกแขนงบนใบหน้าของคุณติดทนนาน ช่วยลดความมันระหว่างวัน ทำให้ไม่ต้องควักแป้งมาตบเพิ่มเรื่อยๆ หรือ ใช้กระดาษซับมันเป็นระยะๆ มันคือ Laura Mercier Oil-Free Primer บอกได้คำเดียว ทิ้งท้ายไว้ตรงนี้ว่า น่าลอง...คุ้มนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น